หน้าแรก ข่าวทั่วไทย ‘ศักดิ์สยาม’ ปิ๊งไอเดีย! จ่อบังคับรถส่วนบุคคลติดตั้ง GPS ทุกคัน รวมจักรยานยนต์ด้วย
‘ศักดิ์สยาม’ ปิ๊งไอเดีย! จ่อบังคับรถส่วนบุคคลติดตั้ง GPS ทุกคัน รวมจักรยานยนต์ด้วย
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายแก่กรมการขนส่งทางบก พร้อมด้วย นายวิรัช พิมพะนิตย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายสุชาติ โชคชัยวัฒนากร กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นางสุขสมรวย วันทนียกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม และนางสาวกอบกุล โมทนา หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม โดยมี นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก และผู้บริหารกรมการขนส่งทางบก ให้การต้อนรับ
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ กล่าวว่า ได้ตรวจเยี่ยมการทำงานของกรมการขนส่งทางบก ประกอบด้วย ศูนย์บริหารจัดการเดินรถระบบ GPS และศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องร้องเรียน (ศูนย์ 1584) และประชุมผ่านระบบ Video Conference ร่วมกับสำนักงานขนส่งจังหวัดทั่วประเทศ โดยนายศักดิ์สยาม ได้เปิดเผยว่า ได้มีการสั่งการ ให้กรมการขนส่งทางบก ไปศึกษาข้อกฎหมายต่างๆ ในการบังคับให้รถยนต์ส่วนบุคคลรุ่นใหม่ต้องติดตั้ง GPS ทุกคัน รวมไปถึงรถจักรยานยนต์ด้วย และจะมีการบังคับใช้ในรถรุ่นเก่าต่อไป ซึ่งทางอธิบดีกรมการขนส่งทางบกจะได้ไปพูดคุยกับกระทรวงอุตสาหกรรมถึงเรื่องราคาการติดตั้งและค่ารายเดือนของ GPS โดยเบื้องต้นทราบว่าราคาค่าติดตั้ง GPS ในปัจจุบันจะอยู่ที่ประมาณ 3,000 บาท และมีค่ารายเดือนประมาณ 300 บาท รวมไปถึงได้สั่งการให้ไปศึกษาข้อกฎหมายเกี่ยวกับสิทธิส่วนบุคคลอีกด้วย
จากการตรวจเยี่ยมในครั้งนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ยังได้มอบนโยบายกรมการขนส่งทางบก ดังนี้
1. การนำเทคโนโลยีดิจิทัลที่ทันสมัยมาใช้ในการบริหารจัดการรถสาธารณะด้านต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความสะดวกให้ประชาชนในการใช้บริการรถโดยสาร รถบรรทุก รถแท็กซี่ และรถจักรยานยนต์
2. พิจารณาข้อเรียกร้องของผู้ให้บริการรถสาธารณะ โดยจัดให้มีการ Work Shop ร่วมกันระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของผู้ให้บริการ ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพิ่มรายได้และลดรายจ่ายให้กับผู้ให้บริการ
3. มาตรการทดสอบสมรรถภาพผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่รถโดยสารสาธารณะ และตรวจสภาพรถโดยสารสาธารณะทุกประเภท ให้เร่งดำเนินการตรวจสอบให้ครบ 100% และดำเนินการอย่างจริงจังต่อเนื่อง ส่วนมาตรการจุดจอดพักรถโดยสารสาธารณะ (Checking Point) ทุกระยะทาง 90 กิโลเมตรนั้น ขอให้มีการดำเนินมาตรการอย่างจริงจังต่อเนื่องเช่นกัน นอกจากนี้ ให้รับฟังปัญหา อุปสรรค จากผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อนำมาปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทั้งนี้ สำนักงานขนส่งจังหวัดได้รายงานปัญหา 3 ประเด็น ได้แก่ ปัญหาเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ ปัญหางบประมาณจำกัด และปัญหาอุปกรณ์การตรวจสอบชำรุด จึงให้ทำเรื่องมาขอรับการสนับสนุนยังกรมการขนส่งทางบกต่อไป
4. ดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เข้มข้น กับรถโดยสารสาธารณะ โดยเฉพาะกรณีกระทำผิดซ้ำ ให้ลงโทษในอัตราโทษสูงสุด ทั้งนี้ ให้กรมการขนส่งทางบกศึกษาข้อกฎหมายเกี่ยวกับการให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบผู้กระทำผิดกฎหมายจราจรและขนส่ง โดยหากประชาชนแจ้งเบาะแสเข้ามา เจ้าหน้าที่จับกุมตรวจสอบแล้วเป็นผู้กระทำผิดจริง ผู้แจ้งเบาะแสได้จะรับส่วนแบ่งรางวัลนำจับ ว่าสามารถกระทำได้หรือไม่ เพื่อเป็นการจูงใจให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการช่วยตรวจสอบ
5. การปฏิรูปเส้นทางรถโดยสารองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ เพื่อส่งเสริมและอำนวยความสะดวกในการเดินทางแก่ประชาชน โดยให้ปรับปรุงเส้นทางให้ทับซ้อนกันน้อยที่สุด
6. เร่งรัดศึกษาการจัดให้มีสถานีขนส่งสินค้าชานเมืองกรุงเทพฯ เพิ่มเติมจากปัจจุบันที่มีอยู่แล้ว 3 แห่ง (พุทธมณฑล คลองหลวง และร่มเกล้า) เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรในเขตกรุงเทพ ลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 และรองรับนโยบายการจำกัดเวลารถบรรทุกเข้าเขตกรุงเทพฯ
7. เร่งแก้ไขปัญหามลภาวะ ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 อย่างจริงจัง โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบไม่ให้มีรถโดยสารสาธารณะที่มีควันดำ หากพบเห็นให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
8. การแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนที่เกิดจากรถทุกประเภท ควรปลูกฝังทัศนคติ/จิตสำนึก ให้เยาวชน ประชาชนทุกคนตระหนักถึงความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของรถทุกประเภทให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล
9. การแก้ไขปัญหารถบรรทุกน้ำหนักเกิน โดยนำเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมมาใช้แก้ไข ควบคุม ตรวจสอบ
10. กรมการขนส่งทางบกต้องสร้างการรับรู้ ความเข้าใจกับประชาชนและผู้ประกอบการ เกี่ยวกับมาตรการต่าง ๆ และประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับจากมาตรการ นอกจากนี้ ให้ตรวจสอบและตอบสนองต่อประเด็นต่าง ๆ ด้วยความรวดเร็ว พร้อมรับฟังความคิดเห็นประชาชนผ่าน Social Media อย่างต่อเนื่อง