ผู้การฯเชียงใหม่ แจงข้อเท็จจริงกลุ่มโจ๋ป่วน รพ.นครพิงค์ ล่าสุดเชิญตัวผู้กระทำผิดและผู้ปกครอง สั่งลงโทษทำทัณฑ์บน พร้อมขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนดูแลบุตรหลาน เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไวรัส
วันที่ 1 เมษายน 2563 รายงานข่าวแจ้งว่า ในการแถลงข่าวของศูนย์ข้อมูลข่าวสารเฉพาะกิจ จังหวัดเชียงใหม่ (ศ.ข.ฉ.ก.) ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน. ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีที่ได้มีข้อมูลข่าวสารปรากฏในโซเชียล กรณีเหตุการณ์ที่มีกลุ่มวัยรุ่นประพฤติตนไม่เหมาะสม ที่เกิดขึ้นในช่วงค่ำคืนของวันที่ 31 มี.ค. 63 ในโรงพยาบาลนครพิงค์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ โดยจากข้อมูลข่าวสารที่ปรากฏในโซเชียลระบุว่า เจ้าหน้าที่คัดกรองก่อนที่จะเข้าโรงพยาบาล ได้ทำการตักเตือนกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวเนื่องจากไม่ได้สวมใส่หน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัส แต่กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวกลับแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมและขึ้นเสียงใส่เจ้าหน้าที่ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องฉุกเฉิน
ทั้งนี้จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า ก่อนหน้านี้ได้มีผู้บาดเจ็บซึ่งเป็นญาติของกลุ่มวัยรุ่น ได้ประสบอุบัติเหตุ และบาดเจ็บถูกส่งมารักษาตัวที่โรงพยาบาลนครพิงค์ และทางเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลได้ตรวจพบกลุ่มวัยรุ่นที่เดินทางมาส่งผู้เจ็บ ขณะเดินทางมาโรงพยาบาลไม่สวมแมส หรือหน้ากากอนามัยจึงได้ให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัวให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โดยเฉพาะการเดินทางมาที่โรงพยาบาลซึ่งเป็นสถานที่เสี่ยง แต่ปรากฏว่ากลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ อีกทั้งยังประพฤติตัวไม่เหมาะสม มีการแสดงสัญลักษณ์ มีการรวมตัวกัน ในเชิงต่อต้าน
โดยทาง พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า เกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้นนี้ ถือเป็นเรื่องที่ต้องมีจิตสำนึก เนื่องจากสถานการณ์ในจังหวัดเชียงใหม่ขณะนี้นั้นยังมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อยู่ ดังนั้นการให้คำแนะนำจากบุคลากรสาธารณสุขเป็นเรื่องที่ดีที่ควรปฏิบัติตาม และหลังจากที่ข้อมูลข่าวสารได้ปรากฏในโซเชียลแล้วนั้น ในส่วนของตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ตนได้สั่งการให้ทางสถานีตำรวจภูธรแม่ริม ได้ไปเชิญผู้ปกครองของกลุ่มวัยรุ่นทั้งหมด จากการตรวจสอบมีทั้งหมด 10 ราย และตัวกลุ่มวัยรุ่นทั้งหมดมาที่สถานีตำรวจเพื่อทำการทำทัณฑ์บนตามกฎหมาย พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พร้อมทั้งได้มีการให้คำแนะนำและชี้แจงเกี่ยวกับขั้นตอนการปฏิบัติ
อย่างไรก็ตาม ตนอยากเรียนว่ากรณีที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ เป็นเรื่องที่ควรตระหนักถึงความปลอดภัย และความระมัดระวังตัวเอง และการปฏิบัติตามตำแนะนำของบุคลากรสาธารณสุข และขอแจ้งเตือนกับทางพี่น้องประชาชนด้วยว่า ในเรื่องต่างๆ ที่เป็นการสุ่มเสี่ยง หรือเรื่องของการปฏิบัติตามคำแนะนำ จังหวัดเชียงใหม่โดยคณะกรรมการโรคติดต่อในจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการสั่งปิดสถานที่ต่างๆ ของจังหวัดเชียงใหม่แล้วรวม 28 สถานที่ด้วยกัน ดังนั้นจึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนในการที่จะไปรวมตัวกันเพื่อลดอัตราเสี่ยงในการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วย และหากพบเห็นผู้ฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง หรือมีการรวมตัวกันในลักษณะที่จะเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสขอให้แจ้งข้อมูลข่าวสารมาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ หมายเลขโทรศัพท์ 191 จากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบเพื่อดำเนินการ