ประชุมด่วน 17 จังหวัดภาคเหนือแก้ปัญหาหมอกควัน นายกฯสั่งจุด Hotspot ต้องเป็น 0 ภายในสัปดาห์นี้

1168

กองทัพภาคที่ 3 ประชุมด่วน 17 จังหวัดภาคเหนือ แก้ปัญหาหมอกควันตาม นายกฯสั่งจุด Hotspot ต้องเป็น 0 ภายในสัปดาห์นี้

      วันที่ 2 เมษายน 2563 ที่ศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) จังหวัดเชียงใหม่ นายคมสัน สุวรรณอัมพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมประชุมทางไกลกับกองทัพภาคที่ 3 ซึ่งได้ประชุมด่วน 17 จังหวัดภาคเหนือ เพื่อติดตามสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันภาคเหนือ โดยมี พล.ต.จิรเดช กมลเพ็ชร รองผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 เป็นประธานการประชุม เนื่องจากสถานการณ์ปริมาณฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ อยู่ในระดับที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จึงได้สั่งการให้ 17 จังหวัดภาคเหนือเร่งจัดการปัญหาไฟป่าและการเผาอย่างเด็ดขาด โดยให้จุดความร้อน หรือ Hotspot ต้องเป็น 0 ภายในสัปดาห์นี้

     จากการรายงานของจังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงเช้าของวันนี้ (2 เม.ย.63) พบจุด Hotspot สูงถึง 333 จุด ในพื้นที่ 17 อำเภอ 50 ตำบล หลังจากเมื่อวันก่อนลดลงไปเหลือเพียง 85 จุด ซึ่ง 5 อำเภอที่มีจุดความร้อนสูงอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ อำเภอแม่แจ่ม 53 จุด อำเภอสะเมิง 45 จุด อำเภอแม่แตง 40 จุด อำเภอเชียงดาว 39 จุด และอำเภออมก๋อย 29 จุด

blank

     ขณะเดียวกัน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้เรียกประชุมอำเภอที่เกิดจุด Hotspot มากที่สุด โดยเน้นย้ำการจัดชุดลาดตระเวนและชุดดับไฟป่าประจำหมู่บ้าน ให้ประจำและฝังตัวอยู่กับประชาชนในหมู่บ้านตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเฝ้าระวังการลักลอบเข้าไปในพื้นที่ป่า และทำการข่าวอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งเน้นย้ำอำเภอเรื่องการพิจารณาสถานการณ์ภายใน 24 ชั่วโมง เพื่อขอรับการสนับสนุนอย่างเร่งด่วน ทั้งปัญหาสถานการณ์ไฟรุนแรง การเข้าถึงสถานที่ที่ยากลำบาก เพื่อที่จะขอรับความช่วยเหลือจากอากาศยาน โดยขอให้ประเมินและแจ้งโดยเร็ว เพื่อให้ทันต่อสถานการณ์และไม่เกิดไฟไหม้ลุกลามในพื้นที่มากกว่าเดิม

blank

     สำหรับวันนี้มีอำเภอที่ได้ร้องขอการสนับสนุนอากาศยานเพื่อเข้าไปดับไฟในพื้นที่ 3 อำเภอ คือ อำเภอสะเมิง อำเภอแม่แตง และอำเภอเชียงดาว เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นหน้าผาและเข้าถึงยาก โดยได้จัดกำลังภาคพื้นเข้าไปช่วยสนับสนุนอีกทางหนึ่ง นอกจากนี้ ให้มีการประชุมกับอำเภอที่มีจุด Hotspot สูง 5 อันดับแรก ทุกเช้า เพื่อติดตามสถานการณ์ รับทราบปัญหาอุปสรรคในพื้นที่อย่างใกล้ชิด อีกทั้งเพื่อตอบสนองต่อการสั่งการของนายกรัฐมนตรีในการเร่งจัดการให้ Hotspot ต้องเป็น 0 ภายใน 7 วัน

     ส่วนการแบ่งพื้นที่ปฏิบัติการภาคอากาศ เฮลิคอปเตอร์หน่วยบินกระทรวงทรัพย์ฯ ร่วมกับหน่วยบินกรมฝนหลวง จำนวน 1 ลำ ปฏิบัติงานที่อำเภอสะเมิง เฮลิคอปเตอร์ MI-17 ของกองทัพบก ปฏิบัติงานที่อำเภอเชียงดาว และเฮลิคอปเตอร์จากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย KA-32 ปฏิบัติงานที่อำเภอแม่ออน พร้อมทั้งเตรียมการเฝ้าระวังอยู่ที่บริเวณดอยสุเทพโดยรอบ ด้านอากาศยานไร้คนขับ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกองทัพอากาศ ขณะนี้ได้ดำเนินการติดตั้งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะมีการทดลองขึ้นบินในช่วงบ่ายของวันนี้ และเริ่มปฏิบัติการจริงในวันพรุ่งนี้

     ทั้งนี้ พล.ต.จิรเดช กมลเพ็ชร ได้เน้นย้ำให้ทุกจังหวัดปฏิบัติตามการสั่งการของนายกรัฐมนตรีอย่างเต็มที่และต่อเนื่อง ประกอบกับการแก้ไขปัญหาโดยวิธีอื่นๆ ด้วย อีกทั้งเน้นย้ำให้ทุกจังหวัดเพิ่มความเข้มข้น ในการลาดตระเวน โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงต่างๆ เช่น พื้นที่เกิดไฟไหม้ซ้ำซาก พื้นที่เสี่ยงเกิดจุดความร้อนในพื้นที่ โดยขอให้บูรณาการร่วมกัน และขอให้ปฏิบัติอย่างต่อเนื่องและเคร่งครัด