ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เน้นย้ำให้ทุกอำเภอปฏิบัติตามข้อสั่งการของจังหวัดอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เกิดจุด Hotspot ในพื้นที่ซ้ำซาก ขณะที่สถานการณ์หมอกควันไฟป่าและค่าคุณภาพอากาศจังหวัดเชียงใหม่ ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
วันนี้ (14 เม.ย.63) ที่กองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า ค่ายกาวิละ จังหวัดเชียงใหม่ พลตรี จิรเดช กมลเพ็ชร รองแม่ทัพภาคที่ 3 เป็นประธานการประชุมผ่านระบบ VDO Conference ร่วมกับ 17 จังหวัดภาคเหนือ เพื่อติดตามสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือ โดยในเช้าวันนี้พบจุดความร้อนในจังหวัดเชียงใหม่เพียง 74 จุด อยู่ในพื้นที่เกษตร ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์จำนวน 2 จุด และลุกลามจากจุดเดิมรอบบ่ายวานนี้ 6 จุด
หลังจากนั้น นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย พลเอก อำนาจ รอดสวัสดิ์ คณะทำงานรองนายกรัฐมนตรี ที่ได้รับมอบหมายจากรองนายกรัฐมนตรี ให้ดูแลการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันของจังหวัดเชียงใหม่ และ นายคมสัน สุวรรณอัมพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมกับคณะทำงานศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมทั้งมีการเรียกประชุม 5 อำเภอ ที่มีจุดความร้อนมากที่สุดในเช้าวันนี้ คือ อำเภอแม่แจ่ม เชียงดาว กัลยานิวัฒนา อมก๋อย และอำเภอแม่แตง ผ่านระบบ VDO Conference เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง รวมถึงเร่งติดตามการแก้ไขและปรับแผนการดำเนินงาน
โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ได้เน้นย้ำข้อสั่งการของจังหวัด ที่ให้เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบพื้นที่ที่มีจุดเผาไหม้ในแต่ละวัน รวบรวมพยานหลักฐานแจ้งความดำเนินคดีทุกคดี จนได้รายชื่อผู้ครอบครองที่ดินให้แล้วเสร็จ ภายใน 3 วัน ซึ่งเมื่อเกิดจุดความร้อนขึ้นในแต่ละพื้นที่ ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปพิสูจน์ทราบทุกจุด โดยศูนย์ฯ จังหวัดจะชี้เป้าหมายผู้ต้องสงสัยที่เป็นพื้นที่ทำกินหรือใกล้เคียงส่งให้อำเภอ และให้อำเภอแจ้งผู้รับผิดชอบแจ้งความดำเนินคดีภายใน 24 ชั่วโมง หากพื้นที่เป้าหมายเป็นพื้นที่ทำกินแต่ไม่ได้ระบุรายชื่อ ให้ทางอำเภอเชิญกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือผู้รับผิดชอบพื้นที่ มาพิจารณาสืบหารายชื่อผู้ครอบครองแปลงที่ดินนั้นๆ ภายใน 24 ชั่วโมง หลังจากแจ้งความดำเนินคดีแล้ว ให้พนักงานสอบสวนเชิญตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบสวนภายใน 24 ชั่วโมง และให้อำเภอรายงานผลการแจ้งความดำเนินคดีให้ศูนย์ฯ จังหวัดทราบภายใน 3 วัน
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบพื้นที่ ตำรวจ และนายอำเภอ จะต้องมีการประชุมหารือร่วมกันภายในหมู่บ้าน เพื่อประเมินผู้ต้องสงสัยก่อน หากในที่ประชุมยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน ให้นำเรื่องแจ้งมายังศูนย์ฯอำเภอ เพื่อแจ้งให้ทางจังหวัดทราบ เพื่อปรับขยายเวลาเพิ่มให้อีก 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ยังสั่งการให้เจ้าของพื้นที่รับผิดชอบที่อยู่ในช่วงพื้นที่รอยต่อ จะต้องมีหน่วยเฉพาะกิจดูแลเป็นพิเศษ โดยให้บูรณาการร่วมกันระหว่างพื้นที่
ให้ชัดเจน
ด้าน นายคมสัน สุวรรณอัมพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้เน้นย้ำให้ทุกอำเภอระบุพื้นที่ของตนเองที่จะต้องทำการบริหารจัดการเชื้อเพลิงให้ชัดเจน โดยจะมีการประชุมหารือในวันพรุ่งนี้ (15 เม.ย.63) เพื่อแบ่งโซนในการบริหารจัดการ รวมถึงการจัดเตรียมอุปกรณ์และกำลังพลในการเฝ้าระวังในพื้นที่ ซึ่งขณะนี้ทางจังหวัดได้เสนอแนวทางการจัดทำระบบบริหารจัดการน้ำบ่อพวง กับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปด้วย เพื่อช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำทางการเกษตร ช่วยในเรื่องภัยแล้ง และเพื่อลดการเผาในพื้นที่
สำหรับสถานการณ์ฝุ่นละอองในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ พบว่ามีค่าคุณภาพอากาศดีขึ้นกว่าสัปดาห์ที่ผ่านมาและอยู่ในเกณฑ์ดีขึ้นตามลำดับ พบกลุ่มฝุ่นละอองปกคลุมลดลง แต่ยังคงปกคลุมทั่วทั้งจังหวัดและทั่วทั้งภาคเหนือ โดยสาเหตุเกิดจากการระบายตัวของอากาศในช่วงเช้าไม่ดีมาก แต่ช่วงบ่ายจะเริ่มดีขึ้น