อย. ย้ำ เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคในบ้านเรือน ต้องมีเลข อย,วอส. เท่านั้น
เภสัชกรหญิงสุภัทรา บุญเสริม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า ขณะนี้ (อย.) พบการโฆษณาขายผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคทางสื่อออนไลน์ โดยแสดงเลขสารบบอาหารหรือเลขทะเบียนวัตถุอันตรายอื่น เช่น วัตถุอันตรายทางการเกษตร ปศุสัตว์ เป็นต้น และขอย้ำว่าได้รับอนุญาตหรือผ่านการขึ้นทะเบียนวัตถุอันตรายแล้ว ทำให้ประชาชนเกิดความสับสน
ดังนั้น อย. ขอย้ำว่า ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคที่ใช้บนพื้นผิว ฝาผนัง วัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ จัดเป็นวัตถุอันตรายที่ใช้ในบ้านเรือนและทางสาธารณสุข อยู่ในการกำกับดูแลของ อย. ซึ่งจะต้องผ่านการประมินประสิทธิภาพและประเมินความปลอดภัยว่า สามารถใช้ในบ้านเรือนได้ และต้องแสดงเลขทะเบียนวัตถุอันตรายในกรอบเครื่องหมาย อย วอส. บนฉลาก
ขอให้ประชาชนระมัดระวังในการนำผลิตภัณฑ์วัตถุอันตรายอื่นมาใช้ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ แม้จะเป็นสารตัวเดียวกันแต่เมื่อยังไม่ได้ผ่านการประเมินจาก อย. ก็ไม่อาจรับรองได้ว่าผลิตภัณฑ์นั้น มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อบนพื้นผิววัสดุตามที่ระบุบนฉลากจริง หรืออาจทำให้พื้นผิวหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ในบ้านเรือนเสียหายได้
นอกจากนี้ เพื่อให้มั่นใจว่า ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคที่ซื้อมามีประสิทธิภาพจริง นอกจากสังเกตเลขทะเบียนวัตถุอันตรายในกรอบเครื่องหมาย อย บนฉลากผลิตภัณฑ์แล้ว ขอให้สังเกตเพิ่มอีก 2 จุดสำคัญก่อนซื้อ ได้แก่
- มีข้อความระบุสามารถ “ฆ่าเชื้อโรค” “ฆ่าเชื้อแบคที่เรีย” หรือ “ฆ่าเชื้อไวรัส”
- มีสารสำคัญที่เป็นสารฆ่าเชื้อโรค เช่น เอทิลแอลกอฮอล์. โซเดียมไฮโปคลอไรต์ ไอโซโพรพิลแอลกอยอล์. คลอโรไซลืนอล. อัลคิลไดเมทิลเบนซิล.แอมโมเนียมคลอไรต์ (เบนซัลโคเนียมคลอไรค์) ไฮโตรเจนเปอร์ออกไซต์ เป็นต้น
ทั้งนี้ สารแต่ละชนิดจะมีประสิทธิภาพต่อชนิดของเชื้อโรคแตกต่างกันไป สามารถตรวจสอบการได้รับอนุญาตและสรรพคุณของผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคได้ที่ เว็บไซต์ อย.www.fda.moph.go.th หัวข้อ “ตรวจสอบผลิตภัณฑ์”
รองเลขาธิการ อย. กล่าวอีกว่า เพื่อประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการใช้งาน ควรใช้ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อให้ถูกประเภท หากนำมาใช้ในบนเรือนต้องสังเกตเลข อย,วอส. เท่านั้น
ก่อนใช้ควรอ่านฉลากให้ละเอียด และ ปฏิบัติตามคำแนะนำบนฉลากอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะอัตราส่วนการผสมและระยะเวลาที่ให้ผลิตภัณฑ์สัมผัสพื้นผิวหลังใช้งานควรล้างมือด้วยน้ำสะอาดและถูสบู่ทุกครั้ง
หากมีความจำเป็นต้องถ่ายผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคลงในขวดหรือภาชนะบรรจุอื่นต้องติดฉลากให้ชัดเจน และเก็บในที่มิดชิด รวมทั้งไม่วางผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารไวไฟ เช่น แอลกอฮอล์ไว้ใกล้กับแหล่งที่ให้เปลวไฟหรือความร้อนเด็ดขาด