ฝนไม่ทั่วฟ้าแถมห่างช่วง เชียงใหม่ยังคงได้รับผลกระทบ ประสบปัญหาภัยแล้ง เร่งวางแผนช่วยเหลือ
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 6 มิถุนายน 63 รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากที่ฝนได้ทิ้งช่วงมานานส่งผลกระทบน้ำให้น้ำปิงบริเวณหลังฝายน้ำป่าแดด ได้ลดลงจนบางจุดเห็นสันดินโผล่ขึ้นจากน้ำ ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรที่อยู่ท้ายน้ำ ทำให้ขาดแคลนน้ำในการดูแลพืชผลทางการเกษตร ซึ่งเกษตรกรส่วนใหญ่ก็หันมาปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อยแทน เพื่อเป็นการสร้างรายได้ในช่วงฤดูแล้ง
โดยทางด้าน นายคมสัน สุวรรณอำภา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เปิดเผยว่า ปัจจุบันในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ยังคงมีการประกาศเขต ภัยพิบัติฉุกเฉินภัยแล้ง จำนวน 15 อำเภอ ได้แก่อำเภออมก๋อย อำเภอฮอด อำเภอเชียงดาว อำเภอแม่อาย อำเภอสันป่าตอง อำเภอฝาง อำเภอกัลยาณิวัฒนา อำเภอดอยหล่อ อำเภอแม่แตง อำเภอดอยเต่า อำเภอหางดง อำเภอแม่แจ่ม อำเภอแม่ริม อำเภอเวียงแหง และอำเภอไชยปราการ โดยในเบื้องต้นทางรัฐบาลได้มีการ วางแผนเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวแล้ว นอกจากนี้ยังได้มีการประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงินทดลองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน ทั้งนี้ในช่วงนี้เข้าสู่หน้าฝนแล้ว คาดว่าจะสามารถผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้อย่างแน่นอน
ด้านนายวรพจน์ คุณาวิวัฒนางกูร เวรพยากรณ์อากาศ ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือเปิดเผยว่า ในช่วงนี้ได้มีมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณอ่าวมะตะบันใกล้กับชายฝั่งประเทศเมียนมาร์ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง กับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ จากนั้นในช่วงวันที่ 7-11 มิถุนายน 2563 หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณอ่าวมะตะบันจะมีกำลังแรงขึ้นและมีแนวโน้มจะเคลื่อนไปยังอ่าวเบงกอลตอนบน ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ประเทศไทยมีฝนตกต่อเนื่องกับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ โดยเฉพาะทางด้านรับลมมรสุม ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจจะเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่เสี่ยงภัยได้