เตือนระวัง ‘แมลงก้นกระดก’ ตัวร้ายที่มากับสายฝน ทำผิวหนังอักเสบ แนะหลีกเลี่ยงการปัดหรือสัมผัสโดยตรง
แมลงก้นกระดก หรือด้วงก้นกระดก เป็นแมลงขนาดเล็ก ลำตัวประมาณ 7-8 มม. มักอาศัยบริเวณพงหญ้าอับชื้น ชอบออกมาเล่นไฟและแสงสว่างตามบ้านเรือน จะมีมากในช่วงปลายฤดูฝน แมลงชนิดนี้สามารถปล่อยสารที่เรียกว่า Pederin ซึ่งก่อให้เกิดความระคายเคืองต่อผิวหนัง ทำลายเนื้อเยื่อผิวหนังของผู้ที่สัมผัส ไม่ควรโดนหรือสัมผัสตัวแมลงดังกล่าว หากบังเอิญแมลงโดนร่างกาย ควรหลีกเลี่ยงการปัดหรือสัมผัสโดยตรง และควรปัดอุปกรณ์บนที่นอน สะบัดเสื้อผ้า อุปกรณ์ที่สวมใส่ เพื่อป้องกันแมลงซ่อนตัว
อาการของผู้สัมผัสแมลงก้นกระดก
– มีอาการแสบร้อน เริ่มเกิดผื่นเมื่อผ่านไปประมาณ 24 ชั่วโมง
– เป็นผื่นแดงขอบเขตชัดเจน หรือมีรอยไหม้ลักษณะเป็นทางยาว
– บางรายอาจเกิดผื่นบริเวณตามข้อพับ
– อาจมีตุ่มน้ำ ตุ่มพอง และตุ่มหนอง ใน 2-3 วัน คล้ายตุ่มน้ำจากโรคงูสวัด
– กรณีที่เกิดผื่นบริเวณกว้าง อาจมีไข้ ปวดศีรษะ หรือคลื่นไส้อาเจียน
– หากโดนบริเวณตา หรือเข้าตา อาจทำให้ตาบอดได้
การดูแลหลังสัมผัส และการป้องกัน
หากสัมผัสถูกตัวของแมลงก้นกระดก ให้รีบล้างน้ำด้วยน้ำเปล่าหรือสบู่ และประคบเย็นในบริเวณที่สัมผัสโดนแมลง โดยผื่นจากแมลงก้นกระดก จะตกสะเก็ดและหายได้เอง ใน 7-10 วัน แต่จะทิ้งรอยดำไว้สักระยะหนึ่ง และควรพบแพทย์เพื่อตรวจอาการ
ที่มา : สภากาชาดไทย