(มีคลิป Video) คืบหน้า นศ.สาวประเภทสอง ม.ดัง ถูก 2 หนุ่มทหารรุมทำร้าย ยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ล่าสุดฝ่ายคู่กรณีส่ง จนท.ต้นสังกัดเข้าเจรจาแสดงความขอโทษ 

8505

(มีคลิป Video) คืบหน้า นศ.สาวประเภทสอง ม.ดัง ถูก 2 หนุ่มทหารรุมทำร้าย ยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ล่าสุดฝ่ายคู่กรณีส่ง จนท.ต้นสังกัดเข้าเจรจาแสดงความขอโทษ 

วันที่ 5 ตุลาคม 2563 รายงานข่าวแจ้ง ความคืบหน้ากรณีเหตุการณ์ที่ทางผู้เสียหายชื่อจิพันธุ์ อายุ 21 ปี นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นสาวประเภทสอง ได้ถูกชายฉกรรจ์ที่ทางเจ้าตัวระบุว่าเป็นทหาร 2 คน รุมทำร้ายอีกทั้งมีการใช้อาวุธ และชักอาวุธปืนมาข่มขู่ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในกลางดึกเวลาประมาณ 00.30 น. ของวันที่ 1 ต.ค.63 ที่ผ่านมา บริเวณสี่แยกไฟแดง .อัษฎาธร ใกล้กับสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง เพียงแค่เจ้าตัวและกลุ่มเพื่อนได้เดินมายืนใกล้ๆ แล้วยิ้มให้ แต่กลับถูกชายฉกรรจ์ทั้ง 2 คน พูดด่าและเหยียดเพศ จนทำให้มีปากเสียงทะเลาะกัน และก่อนที่ชายฉกรรจ์ทั้ง 2 คน จะเขามาทำร้ายร่างกาย และหลังเกิดเหตุ ทางเจ้าตัวได้โพสต์เรื่องราวเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นลงในโลกโซเชียล จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ รวมทั้งได้มีการเดินทางเข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ช้างเผือก เมื่อวันที่ 2 ต.ค.63 ที่ผ่านมา และหลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้มีการสอบสวนทางผู้เสียหาย และดำเนินการสืบสวนติดตามทางคู่กรณีมาให้ข้อมูล ตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

-(มีคลิป Video) นศ.สาวประเภทสอง ม.ดัง โร่แจ้งความถูก 2 หนุ่มคล้ายทหาร รุมทำร้ายใกล้สถานบันเทิงย่าน ถ.อัษฎาธร เหตุเพียงแค่ยิ้มให้ แต่กลับถูกพูดเหยียดเพศ จนเกิดมีปากเสียงและถูกทำร้ายบาดเจ็บ แถมมีการชักอาวุธปืนข่มขู่

ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. วันนี้ (5 ต.ค63) ทางด้านผู้เสียหาย พร้อมด้วยมารดา และกลุ่มเพื่อนที่อยู่ในเหตุการณ์ได้เดินทางเข้าพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ช้างเผือกอีกครั้ง เพื่อเข้าเจรจากับทางฝ่ายคู่กรณี แต่ทางฝ่ายคู่กรณีซึ่งเป็นชาย 2 คน ที่ลงมือก่อเหตุนั้นไม่ได้มาพบกับทางผู้เสียหาย ซึ่งทางต้นสังกัดได้มีการส่งเจ้าหน้าที่ทางกฎหมายเข้ามาเจรจาแทน เพื่อรับฟังข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และจะได้มีการนัดหมายกับทางฝ่ายชาย 2 คน ที่ก่อเหตุมาเจรจาอีกครั้งหลังจากนี้ โดยหลังการเจรจากันภายในห้องสอบสวนประมาณเกือบ 1 ชั่วโมง ทางฝั่งคู่กรณีซึ่งทางผู้เสียหายระบุว่าเป็นเจ้าหน้าที่ด้านกฎหมายนั้นก็ได้เดินขึ้นรถไปโดยไม่ได้ให้ข้อมูลกับทางผู้สื่อข่าวแต่อย่างใด

ขณะที่ในเวลาต่อมา ทางด้านผู้เสียหายและมารดาได้ออกมาจากห้องสอบสวน และได้เปิดเผยว่า ในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้มีการเรียกตนมาสอบปากคำอีกครั้ง และได้มีการเข้าพูดคุยกับทางฝ่ายตัวแทนของคู่กรณีที่ก่อเหตุ โดยในวันนี้ทางตัวแทนของฝ่ายคู่กรณีซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของส่วนไหนในสังกัดหรือเป็นฝ่ายที่ดูแลเรื่องนี้โดยตรง ได้เข้ามาเจรจากับตนและมารดา ซึ่งเบื้องต้นนั้นทางฝ่ายตัวแทนของคู่กรณีได้มีการแสดงความเสียใจและขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งขอความเห็นใจ และได้แจ้งกับทางตนว่าจะมีการนัดทางฝ่ายคู่กรณีที่ก่อเหตุมาพูดคุยกันอีกครั้ง เนื่องจากในวันนี้ทางฝ่ายคู่กรณียังไม่สะดวกที่จะมาพบ และในส่วนของเรื่องการเรียกร้องค่าเสียหายหรือเรื่องต่างๆ นั้น ขณะนี้ก็ยังไม่ได้มีการพูดคุยกันแต่อย่างใด เนื่องจากการพบกันในวันนี้ก็แค่เป็นการเจรจากับผู้ใหญ่ และเพียงแค่มีการแสดงความขอโทษเพียงเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามในส่วนการดำเนินเรื่องนั้นตนก็ยังคงยืนยันว่าจะดำเนินคดีกับทางคู่กรณีให้ถึงที่สุด แต่เนื่องจากยังไม่ได้เจอกับทางคู่กรณีจึงไม่สามารถกำหนดหรือระบุอะไรได้ รวมไปถึงขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาอะไรกับทางคู่กรณี เนื่องจากต้องรอทางฝั่งนู้นมาให้ปากคำก่อน จากนั้นก็จึงจะมีการเจรจาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป