กระทรวงมหาดไทย ย้ำผู้ว่าฯ 10 จังหวัดชายแดนเมียนมารวมเชียงใหม่ เพิ่มความเข้มงวดจุดผ่านแดน-ช่องทางธรรมชาติ ป้องกันการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย สกัดโควิด-19
เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2563 ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) เปิดเผยว่า ตามที่ ศบค.มท. ได้แจ้งให้ทุกจังหวัดโดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวัดชายแดนด้านเมียนมา เพิ่มความเข้มข้นในการเฝ้าระวังไม่ให้มีการลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย รวมทั้งให้บูรณาการส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับพื้นที่ติดตามค้นหาแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบกลับเข้าประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย
เนื่องจากปรากฏข่าวสารทางสื่อมวลชนว่า มีการตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นพนักงานขับรถชาวเมียนมา ซึ่งเดินทางเข้ามาในประเทศไทยผ่านด่านชายแดนอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก และมีผู้ที่สัมผัสผู้ติดเชื้ออยู่ระหว่างการกักตัว ซึ่งอาจนำไปสู่ความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทย
เพื่อเป็นการป้องกัน เฝ้าระวัง และสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดชายแดนด้านเมียนมา นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทยในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับการสั่งการและประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนด้านเมียนมา 10 จังหวัด (กาญจนบุรี ชุมพร เชียงราย เชียงใหม่ ตาก ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี แม่ฮ่องสอน ระนอง และราชบุรี) ให้กำชับและเน้นย้ำนายอำเภอรวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการตามมาตรการและแนวทางปฏิบัติของการป้องกันโรคสำหรับผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรผ่านจุดผ่านแดนในพื้นที่รับผิดชอบโดยเคร่งครัด พร้อมทั้งเพิ่มความเข้มงวด เฝ้าระวัง ป้องกันมิให้มีการลักลอบเดินทางเข้าประเทศของบุคคลจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างผิดกฎหมายผ่านช่องทางธรรมชาติบริเวณชายแดน หากพบกรณีดังกล่าวให้ดำเนินการตามระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องและมาตรการป้องกันโรคที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ทั้งนี้ ให้รายงานสถานการณ์และจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่พบจากการเดินทางผ่านแดนด้านเมียนมา หรือผู้ที่สัมผัสกับผู้ที่เดินทางผ่านแดนด้านเมียนมาและตรวจพบการติดเชื้อให้กระทรวงมหาดไทยทราบโดยเร่งด่วน