เชียงใหม่เผยไทม์ไลน์ พร้อมแถลงยืนยันพบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่ม 1 ราย นับเป็นรายที่ 42 ของจังหวัดเชียงใหม่

8572
โควิดเชียงใหม่

เชียงใหม่เผยไทม์ไลน์ พร้อมแถลงยืนยันพบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่ม 1 ราย นับเป็นรายที่ 42 ของจังหวัดเชียงใหม่

วันนี้ (28 พ.ย. 2563) คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ชี้แจงกรณีพบผู้ป่วย COVID-19 คนที่ 42 ของจังหวัดเชียงใหม่ เป็นหญิง อายุ 29 ปี พักคอนโดแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ จากการลงพื้นที่ของทีมสอบสวนโรคเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับสำนักควบคุมโรคที่ 1 ผู้ป่วยรายนี้ได้เดินทางมาจากประเทศเพื่อนบ้านผ่านทางจังหวัดเชียงรายเข้ามาในจังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 24 พ.ย. 2563 และได้ขอเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิค 19 ที่โรงพยาบาลเอกชนในจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2563 ผลการตรวจยืนยัน 2 แลป ทั้งของโรงพยาบาลเอกชนและห้องแลปของทางโรงพยาบาลนครพิงค์ ระบุตรงกันว่าผลยืนยันพบเชื้อโควิด 19 จึงได้รับผู้ป่วย ซึ่งมีอาการไข้ ไอ ปวดศีรษะ ท้องเสีย จมูกไม่ได้กลิ่น เข้ารักษาที่โรงพยาบาลนครพิงค์ ซึ่งในขณะนี้ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้น ไม่มีไข้ ไม่มีหอบเหนื่อย จมูกเริ่มได้กลิ่น

สำหรับไทม์ไลน์ “ผู้ป่วย COVID-19” คนที่ 42

วันที่ 24 พ.ย. 2563 เดินทางจากจังหวัดเชียงรายเข้ามาในจังหวัดเชียงใหม่ โดยรถประจำทางบริษัทกรีนบัส เส้นทางเชียงราย-เชียงใหม่ เวลา 11.00 – 15.00 น. จากนั้นได้เดินทางด้วยรถ (Grab1) เข้าพักคอนโดของตนเองที่ ดีคอนโดพิงค์ และได้เดินทางไปเที่ยวร้านคิงส์เวย์ โฮสต์แอนด์คาราโอเกะ กับเพื่อนอีก 2 คน ในช่วงดึก ก่อนที่จะไปพักค้างคืนที่วีดีคอนโดมิเนียมกับเพื่อน

วันที่ 25 พ.ย. 2563 ผู้ป่วยเดินทางกลับถึงที่พักดีคอนโดพิงค์ เวลาประมาณ 12.00 น. โดยเพื่อนมาส่ง หลังจากนั้นเวลา 15.15 น. เดินทางด้วยรถ (Grab3) ไปที่ศูนย์การค้าเซนทรัลเฟสติวัล
– เวลา 15.24 น. เดินทางถึงเซนทรัลเฟสติวัล โดยเข้าประตูด้านร้าน KFC
– เวลา 15.26 – 15.29 น. เข้าไปดูสินค้าที่ร้าน H&M
– เวลา 15.32 น. กด ATM ที่ตู้ธนาคาร SCB ชั้น 3(หน้าธนาคารกรุงเทพ)
– เวลา 15.39 – 16.22 น. รับประทานชาบูที่ร้านชาบูชิ
– เวลา 15.36 – 18.45 น. ชมภาพยนตร์ที่เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ โรงที่ 6
– เวลา 18.47 – 19.16 น. เข้าวัตสันชั้น 4
– เวลา 19.23 – 19.42 น. เดินทางไป Food Hall
– เวลา 19.45 – 20.13 น. เดินทางไปร้าน CDS
– เวลา 20.15 –20.24 น. ขึ้น Grab4 กลับ ดีคอนโดพิงค์
วันที่ 26 พ.ย. 2563 ได้เดินโดย Grab3 ทางไปขอรับการตรวจที่โรงพยาบาลเอกชนในจังหวัดเชียงใหม่ ผลตรวจยืนยันพบเชื้อโควิด 19

ซึ่งจากการลงพื้นที่สอบสวนโรคและค้นหาผู้สัมผัส พบผู้สัมผัสทั้งหมด จำนวน 306 ราย ในนี้มีผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูง จำนวน 85 ราย และได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 แล้ว จำนวน 102 ราย ทราบผลการตรวจแล้ว 17 ราย ผลตรวจเป็นลบทั้งหมด โดยผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูงที่ไม่มีอาการจะต้องกักตัวทุกคน หากไม่สามารถกักตัวที่บ้านได้ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ได้จัดสถานที่กักกันผู้สัมผัสใกล้เสี่ยงสูงไว้แล้ว และมีผู้เข้ากักกันตนจำนวน 5 ราย ทั้งนี้ผู้สัมผัสทุกรายจะต้องสังเกตอาการผิดปกติอย่างใกล้ชิด หากมีอาการผิดปกติจะถูกตรวจหาเชื้อซ้ำและแยกกักในโรงพยาบาล สำหรับผู้สัมผัสที่กักกันตนที่บ้านจะมีการประสานงานให้ทางโควิดหมู่บ้านเข้าไปดูแลและตรวจประเมินจนครบ 14 วันหลังสัมผัสผู้ป่วย

สำหรับพื้นที่ที่มีความเสี่ยงดังที่ต้องเฝ้าระวัง มีดังต่อไปนี้

สำหรับผู้ที่ไปในสถานที่ดังกล่าว ขอให้ท่านกักกันตนเองจนกระทั่งครบ 14 วันหลังวันสัมผัส สำหรับผู้ที่ไม่มีอาการ ให้โทรนัดหมายเพื่อตรวจในวันที่ 1 ธ.ค. 2563 (ตามระยะฟักตัวเฉลี่ย) โดยหากพบอาการผิดปกติระหว่างการกักกันให้รีบพบแพทย์และแจ้งประวัติความเสี่ยงต่อบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อขอรับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ได้ที่โรงพยาบาลทุกแห่งในจังหวัดเชียงใหม่ ทั้งนี้หากมีข้อสงสัยให้ติดต่อทีมตระหนักรู้สถานการณ์ (SAT) สสจ.เชียงใหม่ โทร 084-8053131, 084-8052121

ทั้งนี้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ยืนยันว่า ทางทีมงานยังคงดำเนินการสอบสวนค้นหา
ผู้สัมผัสเพิ่มเติม และยืนยันว่าทางสำนักงานสาธารณสุขได้เตรียมความพร้อมทั้งทางด้านการตรวจแลปและเวชภัณฑ์ต่างๆ ให้สามารถรองรับกับสถานการณ์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้น

สำหรับมาตรการของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ได้รับฟังความคิดเห็นทั้งภาคประชาชนและผู้ประกอบการ เพื่อให้สามารถป้องกันควบคุมโรคได้ โดยมีผลกระทบกับการดำเนินชีวิตและเศรษฐกิจให้น้อยที่สุด และเน้นย้ำขอความร่วมมือประชาชน ให้สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ เว้นระยะห่าง เข้ารับบริการสถานที่ต่างๆ ลงทะเบียนด้วย “ไทยชนะ” ทุกครั้ง