ซูเปอร์โพลเผย “บิ๊กตู่” ทำงานได้ใจประชาชน แก้ปัญหาเศรษฐกิจและปากท้อง
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อํานวยการสํานักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) สถาบันวิจัยความสุขชุมชนและความเป็นผู้นํา นําเสนอผลสํารวจภาคสนาม เรื่อง รัฐมนตรีต้นปี ได้ใจ ประชาชน กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ โดยดําเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Researdา) จํานวน 1,610 ตัวอย่าง ดําเนิน โครงการระหว่างวันที่ 11 – 16 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา
เมื่อถามถึง ความเชื่อมั่นต่อ มาตรการประคองเศรษฐกิจ คุมโควิดใหม่ ภายใต้การนําของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พบว่า ร้อยละ 49.2 เชื่อมั่น ร้อยละ 26.8 ระบุปานกลาง และร้อยละ 24.0 ไม่เชื่อมั่น
ที่น่าสนใจคือ เมื่อถามถึง คณะบุคคลในคณะรัฐมนตรีต้นปี 2564 ที่ได้ใจประชาชนเรื่อง แก้ปัญหา เศรษฐกิจและปากท้องของประชาชน พบว่า อันดับแรกหรือร้อยละ 35.8 ได้แก่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โครงการ คนละครึ่ง และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาพรวม รองลงมาคือ ร้อยละ 21.0 ได้แก่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โครงการ พาณิชย์ ลดราคา อาหาร ของกิน เครื่องดื่ม ของใช้ชีวิตประจําวัน ร้อยละ 20.9 ได้แก่ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน มาตรการค่าไฟฟ้า ร้อยละ 20.5 ได้แก่ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มาตรการเงินเยียวยา มาตรการสินเชื่อ ค้ําประกันสินเชื่อ และร้อยละ 18.1 ได้แก่ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ตามลําดับ
ที่น่าพิจารณา คือ บุคคลในคณะรัฐมนตรีต้นปี ได้ใจประชาชนเรื่อง ช่วยเหลือเรื่องรายได้ ลด ผลกระทบโควิด-19 พบว่า อันดับแรกหรือร้อยละ 33.2 ได้แก่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รองลงมา อันดับสองหรือ ร้อยละ 20.3 ได้แก่ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง การประกันรายได้ ช่วยราคาผลผลิต และเงินเยียวยาเกษตรกร อันดับสาม หรือร้อยละ 20.2 ได้แก่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ลดราคาสินค้า ของกิน ของใช้ ผลกระทบโค วิด-19 อันดับสี่ หรือ ร้อยละ 19.6 ได้แก่ นาย สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงพลังงาน และร้อยละ 19.4 ได้แก่ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ตามลําดับ
นอกจากนี้ เมื่อถามถึง บุคคลในคณะรัฐมนตรีต้นปี ได้ใจประชาชนเรื่อง การทํางานควบคุม สถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 พบว่า อันดับแรกหรือร้อยละ 32.5 ได้แก่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เร่งรัดจัดการ เจ้าหน้าที่รัฐขบวนการต้นตอแพร่ระบาดโควิด ทั้ง บ่อนพนัน และขบวนการฟอกตัว แรงงาน เป็นต้น รองลงมาคือ ร้อยละ 30.7 ได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่วิกฤตเช่น สมุทรสาคร แม่สอด ควบคุมการแพร่ระบาด เร่งรัดวัคซีน และสนับสนุน บุคลากรทางการแพทย์ เป็นต้น และร้อยละ 29.7 ได้แก่ นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง สาธารณสุข ลงพื้นที่ ตรวจเยี่ยม โรงพยาบาลสนาม พื้นที่ต่าง ๆ และร้อยละ 21.9 ได้แก่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เร่งรัดผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 อย่างเคร่งครัด และร้อยละ 18.0 ได้แก่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ควบคุมจัดการเจ้าหน้าที่รัฐต้นตอ แพร่ระบาดโควิด-19
ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า รัฐมนตรีต้นปี ได้ใจประชาชนเป็นรัฐมนตรีที่ทํางานใกล้ตัวประชาชนมีผลตรงต่อ ชีวิตความเป็นอยู่และเงินในกระเป๋าของประชาชน จากผลโพลนี้ เสนอให้นายกรัฐมนตรีใช้โมเดล “พลังห้าเสือ” ได้แก่ คลัง พาณิชย์ เกษตร อุตสาหกรรมและพลังงาน ประชุมที่โต๊ะรูปไข่ทําเนียบรัฐบาล มุ่งเป้าหมายไปที่ ลด ความทุกข์ยากเดือดร้อนของประชาชนในทุกมิติให้เข้าเป้าทั้งแผง ไม่ใช่ต่างคนต่างคิดต่างทําโชว์ผลงานไปคนละ ทางกลายเป็นการฟาดหวายไปทีละเส้นไร้พลังจึงต้องมัดเส้นหวายเข้าด้วยกัน โดยนําหัวกะทิของแต่ละกระทรวงทั้ง ห้าเสือเหล่านี้ทําเวิร์คช็อป (Workshop) ที่ทําเนียบรัฐบาลใช้ข้อมูลที่ดีนําทางใช้ความทุกข์ยากเดือดร้อนของ ประชาชนเป็นตัวตั้งและใช้มาตรการที่ได้จาก “พลังห้าเสือ” ไปลดทอนความทุกข์ยากลําบากเดือดร้อนของประชาชน ทั้งประเทศ ผลที่ตามมาคือ รัฐมนตรีต้นปีได้ใจประชาชนเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน