จังหวัดเชียงใหม่ เร่งฉีดวัคซีนโควิด-19 รอบที่ 3 ให้กับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขทั่วจังหวัด อีก 10,000 ราย ตั้งเป้าฉีดให้แล้วเสร็จภายใน 25 เมษายน นี้
นายแพทย์ธีรวัฒน์ วงค์ตัน หัวหน้าภารกิจด้านบริการปฐมภูมิ โรงพยาบาลนครพิงค์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ ทางจังหวัดเชียงใหม่ ได้รับวัคซีนโควิด-19 ของซิโนแวค จากประเทศจีน เข้ามาในรอบที่ 3 ตั้งแต่เมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา จำนวนทั้งสิ้น 20,000 โดส สำหรับรองรับผู้ฉีดวัคซีน จำนวน 10,000 ราย (รายละ 2 โดส) ซึ่งทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการจัดสรรวัคซีนให้กับโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วทั้งจังหวัดตามความเหมาะสม เพื่อนำไปฉีดวัคซีนให้กับผู้ที่จำเป็นต้องได้รับการฉีดวัคซีนในรอบนี้ และยังคงเน้นหนักในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ทั้งหมอ แพทย์ พยาบาล รวมถึงเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานอื่นที่มีความเสี่ยงต่อโรคในขณะปฏิบัติหน้าที่ เช่น อสม. เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร และยังรวมไปถึงผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว โดยในรอบนี้ได้มีการตั้งเป้าจัดสรรวัคซีน เพื่อที่จะให้ครอบคลุมบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขให้ได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 75 ของบุคลากรสาธารณสุขทั้งหมดจังหวัด
สำหรับในส่วนของโรงพยาบาลนครพิงค์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางในการฉีดวัคซีนที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดเชียงใหม่ ได้รับวัคซีนในรอบนี้มาจำนวน 4,000 โดส สำหรับรองรับผู้ที่ต้องการฉีดวัคซีน จำนวน 2,000 ราย และได้เริ่มทยอยฉีดตั้งแต่วันอังคารที่ 20 เมษายน เป็นต้นมา ซึ่งศักยภาพของโรงพยาบาลนครพิงค์ สามารถทำการฉีดวัคซีนได้เฉลี่ยวันละประมาณ 300 ราย ดังนั้น จะสามารถฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้แล้วเสร็จภายในวันอาทิตย์ที่ 25 เมษายน 2564 ที่จะถึงนี้
ทั้งนี้ จากการสำรวจ พบว่า ที่ผ่านมา บุคลากรทางการแพทย์ในจังหวัดเชียงใหม่ ต่างกระตือรือร้นที่จะเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ค่อนข้างมาก เช่นเดียวกับในส่วนของประชาชน และ อสม. เมื่อรับรู้ถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดที่รุนแรงมากขึ้น ต่างก็เริ่มตระหนักถึงความสำคัญและให้ความสนใจที่จะรับการฉีดวัคซีนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งตั้งแต่ที่จังหวัดเชียงใหม่เริ่มฉีดวัคซีนรอบแรกในช่วงต้นเดือนมีนาคม และรอบที่ 2 ช่วงต้นเดือนเมษายน มาจนกระทั่งถึงรอบที่ 3 ในครั้งนี้ ยังไม่พบผู้ที่มีอาการจากผลข้างเคียงที่รุนแรง จะมีเพียงแต่ผู้ที่มีอาการจากผลข้างเคียงเล็กน้อยเฉพาะที่ เช่น มีอาการปวดบวมแดงบริเวณจุดที่ฉีดยา หรือมีอาการวิเวียนศีรษะเล็กน้อย เท่านั้น ยังไม่มีอาการแทรกซ้อนที่รุนแรงแต่อย่างใด
นายแพทย์ธีรวัฒน์ วงค์ตัน เปิดเผยอีกว่า การฉีดวัคซีนโควิด-19 นั้น ถือเป็นประวัติศาสตร์ที่ได้มีการระดมฉีดวัคซีนครั้งใหญ่ที่สุดให้กับประชากรทั่วโลก โดยจะต้องเร่งฉีดวัคซีนให้ได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 ของประชากรทั่วโลก เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่และเป็นการยับยั้งไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขึ้นอีก โดยวัคซีนที่ใช้ฉีดนั้น ก็ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลทั้งหมด ประชาชนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ดังนั้น จึงขอความร่วมมือให้บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข รวมถึงพี่น้องประชาชน ให้มาฉีดวัคซีนตามที่รัฐบาลได้กำหนด เพื่อที่จะได้ควบคุมการแพร่ระบาดของโรคให้ได้เร็วที่สุด
ข่าว : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่