เชียงใหม่แถลง เรือนจำกลางเชียงใหม่คุมโควิดสำเร็จ ผู้ต้องขังมีภูมิคุ้มกันหมู่ร้อยละ 95 ชี้พ้นระยะการระบาดแล้ว พร้อมส่งคืนพื้นที่ปลอดภัยให้กรมราชทัณฑ์
วันนี้ (31 พ.ค. 64) หอประชุมเดชะตุงคะ กองบิน 41 นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยนายแพทย์จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ พลตรีวุฒิไชย อิศระ รองเจ้ากรมแพทย์ทหารบก พลตรีจรัส ปัญญาดี ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 7 พันเอกสงบศึก วังแก้ว รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 นายสุรศักดิ์ เผื่อนคำ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางเชียงใหม่ และนายอรรถวุฒิ พึ่งเนียม นายอำเภอแม่แตง ร่วมแถลงสรุปผลการดำเนินงาน ตามระบบ Bubble and Seal โรงพยาบาลสนามเรือนจำกลางเชียงใหม่ และการส่งคืนพื้นที่ปลอดภัยแก่กรมราชทัณฑ์และจังหวัดเชียงใหม่
นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่พบการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในเรือนจำกลางเชียงใหม่ช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา และด้วยเป็นการระบาดในที่จำกัด ประกอบกับมีผู้ต้องขังอยู่เป็นจำนวนมาก จึงได้นำระบบ Bubble & Seal มาใช้ควบคุมการแพร่ระบาดของโรค โดยการปิดพื้นที่และลดการเคลื่อนไหว เพื่อควบคุมไม่ให้เชื้อออกจากเรือนจำ ซึ่งครบกำหนดการรักษาแล้วเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ขณะนี้ถือว่าพื้นที่เรือนจำกลางเชียงใหม่ปลอดภัยแล้วและพร้อมส่งคืนพื้นที่ปลอดภัยแก่กรมราชทัณฑ์และจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้การสนับสนุนทั้งอุปกรณ์ บุคลากร และการอำนวยความสะดวกในด้านต่าง ๆ ทำให้การดำเนินงานในครั้งนี้ลุล่วงไปได้ด้วยดี
ด้านนายแพทย์จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ สรุปผลการดำเนินงานตามระบบ Bubble & Seal ว่าการดำเนินงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและบรรลุวัตถุประสงค์ทั้ง 3 ประการคือ การป้องกันการระบาดจากเรือนจำออกสู่ชุมชน การป้องกันการควบคุมการระบาดระหว่างแดนภายในเรือนจำ และการลดความรุนแรงของอาการและเสียชีวิตของผู้ต้องขัง โดยได้มีการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามภายในเรือนจำกลางเชียงใหม่ และมีการรักษาอย่างรวดเร็ว ทั้งการใช้ยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจรและยาฟาวิพิราเวียร์ รักษาผู้ติดเชื้อตามความเสี่ยงและความรุนแรงของโรค ทั้งนี้จากการตรวจภูมิคุ้มกันในรอบสุดท้ายกว่า 300 คน พบมีผู้ต้องขังไม่มีภูมิคุ้มกัน 177 คน คิดเป็นร้อยละ 2.7 ของผู้ต้องขังทั้งหมด และมีผู้เสียชีวิตเพียง 3 คน คิดเป็นร้อยละ 0.07 ซึ่งเป็นตัวเลขกลุ่มสุดท้ายก่อนมีการส่งมอบพื้นที่คืนสู่เรือนจำ และเมื่อสิ้นสุดกำหนดระยะเวลา 28 วันพบว่าขณะนี้ผู้ต้องขังทั้งหมดมีภูมิคุ้มกันหมู่ถึงร้อยละ 95 ของผู้ต้องขังทั้งหมด จึงถือว่าพื้นที่เรือนจำกลางเชียงใหม่เป็นพื้นที่ปลอดภัยจากการระบาดและมีภูมิคุ้มกันหมู่สูง
พลตรีวุฒิไชย อิศระ รองเจ้ากรมแพทย์ทหารบก กล่าวว่าปัจจัยความสำเร็จทั้งหมดเกิดจากพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระราชทานอุปกรณ์ด้านการแพทย์ ในโครงการราชทัณฑ์ปันสุข รวมไปถึงกองทัพบกที่สนับสนุนและให้ความห่วงใย ทั้งการสนับสนุนจากหน่วยงานสาธารณสุข ในการบริการทางการแพทย์ในพื้นที่ที่มีขีดจำกัด รวมถึงการจัดทีมผู้เชี่ยวชาญพิเศษและการบริหารจัดการให้รักษาพยาบาลในเรือนจำมีความเหมาะสม ร่วมวางมาตรการในการรักษาผู้ต้องขัง และได้ส่งมอบพื้นที่เรือนจำที่ปราศจากเชื้อ กลับสู่ราชทัณฑ์เป็นพื้นที่ปลอดภัย และการควบคุมการระบาดของโรคโควิค-19 จนสำเร็จ
ขณะที่นายสุรศักดิ์ เผื่อนคำ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางเชียงใหม่ กล่าวว่าขอบคุณทุกฝ่ายที่ได้ใช้ความรู้ความสามารถ และทุ่มเทปฏิบัติงานในโรงพยาบาลสนามเรือนจำกลางเชียงใหม่ ตลอดจนฝ่ายความมั่นคง รวมทั้งทหาร กองทัพบก และรองเจ้ากรมแพทย์ทหารบก ซึ่งทำให้พี่น้องในเรือนจำกว่า 6,000 คน มีขวัญกำลังใจในการต่อสู้กับโรคโควิด-19 และขอบคุณผู้บริจาคสิ่งของรวมถึงสื่อมวลชนที่ได้ให้ข้อมูลแก่พี่น้องประชาชนภายนอก ทั้งนี้พี่น้องในเรือนจำทุกคนได้ให้ความร่วมมือปฏิบัติตนอยู่ในความสงบเรียบร้อย และเข้มงวด จนกระทั่งภารกิจสำเร็จลุล่วงตามเป้าหมาย
ด้านนายอรรถวุฒิ พึ่งเนียม นายอำเภอแม่แตง เปิดเผยถึงความรับผิดชอบในการป้องกันไม่มีการระบาดในชุมชนว่า อำเภอแม่แตงได้มีมาตรการป้องกันโรคในกลุ่มผู้พ้นโทษอย่างรัดกุม โดยขณะนี้คงเหลือผู้พ้นโทษที่ออกมาแล้วและถูกกักตัวไว้ในสถานกักกันของทางอำเภอแม่แตงเพียง 6 คนเท่านั้น พร้อมยืนยันว่าผู้ต้องขังที่ถูกปล่อยตัวออกมาได้ให้ความร่วมมือและปฏิบัติตนตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัดเพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดภายหลังการพ้นโทษ
ข่าว-ภาพ : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่