หนุ่มหัวร้อน คู่กรณีอาสากู้ภัย เปิดใจพร้อมยกมือไหว้ขอโทษสังคม ยืนยันขณะนั้นเห็นสภาพลูกสาวได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ เกิดอารมณ์ร้อน พร้อมขอโทษเจ้าหน้าที่กู้ภัย ที่ตนเข้าใจผิด

171

หนุ่มหัวร้อน คู่กรณีอาสากู้ภัย เปิดใจพร้อมยกมือไหว้ขอโทษสังคม ยืนยันขณะนั้นเห็นสภาพลูกสาวได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ เกิดอารมณ์ร้อน พร้อมขอโทษเจ้าหน้าที่กู้ภัย ที่ตนเข้าใจผิด

วันที่ 14 ก.ย.64 ความคืบหน้ากรณีโลกโซเชี่ยล คนหนึ่งที่อยู่ในอารมณ์ฉุนเฉียวอย่างมากพูดจาโวยวายเสียงดังกลางถนน ผลักอกเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่กำลังเข้าช่วยเหลืออำนวยความสะดวกจราจร จากอุบัติเหตุรถยนต์ชนท้ายรถจักรยานยนต์ มีผู้ได้รับบาดเจ็บเหตุการเกิดที่ห้วยบงนอก ตงแม่แฝกใหม่ อ.สันทราย โดยก่อนหน้านั้นผู้ชายคนดังกล่าวยังได้พยายามจะทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่กู้ชีพผู้หญิงอีกคนหนึ่งด้วย พร้อมอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลรัฐชื่อดังของจังหวัดเชียงใหม่ ก่อนจะพาตัวลูกชายและที่เป็นคนขับรถยนต์ออกไป
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามไปยังชายที่ปรากฏในคลิปดังกล่าว ทราบชื่อคือ นายกิตติศักดิ์ ชัยวุฒิ อายุ 38 ปี ชาวบ้านห้วยน้ำริน ต.ขี้เหล็ก อ.แม่ริม ซึ่งทางเจ้าตัวได้ออกมาเปิดเผยกับทางผู้สื่อข่าวว่า ขณะเกิดเหตุลูกชาย กับลูกสาวได้ขี่รถจักรยานยนต์ จากบ้านไปตามหาตนเองที่โรงพยาบาลในเขต อ.สันทราย ต่อมาลูกชายโทรมาบอกว่าเกิดอุบัติเหตุ ตนจึงขับรถยนต์ออกมาดูลูกทั้ง สอง เมื่อถึงที่เกิดเหตุ เห็นสภาพลูกสาวได้รับบาดเจ็บจึงรับไม่ได้ ขณะนั้นทราบว่าป้าคู่กรณีได้อุ้มลูกสาวตน และขอถ่ายรูปบัตรประจำตัวประชาชนเอาไว้เพื่อจะรีบพาลูกๆไปโรงพยาบาล เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจยังเดินทางมาไม่ถึง ในช่วงที่ตนพยายามสอบถามหาคู่กรณี จนมีปากเสียงกับเจ้าหน้าที่กู้ภัย ที่กำลังอำนวยความสะดวกด้านการจราจร จนมีภาพออกมาลักษณะว่าตนหาเรื่อง ชกต่อยกับเจ้าหน้าที่ฯ หลังเกตุตนได้นำตัวลูกชายวัย 15 ปีและลูกสาววัย 2 ขวบ 6 เดือนที่ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาล ซึ่งลูกสาวกระไหปลาร้าหัก และหน้าผากมีแผล
นายกิตติศักดิ์ ชัยวุฒิ บอกอีกว่า หลังทราบว่ามีคลิปตนเองปรากฎบรโลกโซเชียล และถูกกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก จึงสำนึกได้ ซึ่งช่วงเช้าวันนี้ตนได้เดินทางไปที่เทศบาล ต.เจดีย์แม่ครัวขอเข้าพบผู้บริหารเทศบาล เพื่อต้องการมาขอโทษเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่แสดงกิริยาไม่เหมาะสม ซึ่งตนกราบขอโทษเจ้าหน้าที่กู้ภัยทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ และขอโทษสังคมที่ตนเองได้แสดงกิริยาที่ไม่เหมาะสมแบบนั้นออกมา พร้อมทั้งอยากขอโอกาสเข้าพบและขอโทษ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเป็นบทเรียนให้ตนใจเย็นขึ้น