รักต่างวัย! ตร.คุมตัวหนุ่มไทใหญ่วัย 31 ปี หลังพาเด็กหญิงวัย 14 ปี มาหลับนอน เผยรู้จักกันมา 4-5 เดือน ก่อนฝ่ายหญิงนั่งรถจาก อ.ฝาง มาหาถึงที่ ไม่รู้ว่าหนีออกจากบ้าน ผู้ปกครองแจ้งความตามหาตัว สุดท้ายถูกดำเนินคดีพรากผู้เยาว์
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 20 ม.ค. 65 ที่สถานีตำรวจภูธรแม่ปิง จ.เชียงใหม่ พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้เดินทางเข้าสอบสวน นายคำหลู่ ลุงต๊ะ อายุ 31 ปี ชาวไทใหญ่ เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงจากกรณีที่ ด.ญ.พลอยสวย (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี ชาว อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ หายออกจากบ้านไปตั้งแต่วันที่ 10 ม.ค.65 และทางผู้ปกครองได้เข้าทำการแจ้งความเพื่อดำเนินการติดตามหาตัว จนกระทั่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เบาะแสและพบตัวเด็กหญิงคนดังกล่าว ที่หอพักแห่งหนึ่งในย่าน ต.สันผีเสื้อ อ.เมืองเชียงใหม่ ขณะอยู่กับนายคำหลู่ ผู้ต้องหา จึงได้ทำการควบคุมตัวเพื่อมาสอบสวนข้อเท็จจริงเรื่องราวที่เกิดขึ้นดังกล่าว
โดยทาง พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า กรณีที่เกิดขึ้นสืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับการประสานจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ สภ.ฝาง ที่มีทางผู้ปกครองเด็กหญิงผู้เสียหายมาแจ้งความว่า ลูกสาวได้หายออกจากบ้านไปและขอความช่วยเหลือติดตามหาตัว จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจังหวัดเชียงใหม่ จึงได้ทำการสืบสวนติดตามเบาะแสของเด็กหญิงคนดังกล่าว จนกระทั่งวานนี้ (19 ม.ค.65) ทราบว่าเด็กหญิงคนดังกล่าวได้มาอยู่กับชายหนุ่มผู้ต้องหา ในพื้นที่ ต.สันผีเสื้อ อ.เมืองเชียงใหม่ ในลักษณะที่เป็นแฟนกัน แต่เนื่องจากเด็กหญิงคนดังกล่าวยังอายุ 14 ปี ซึ่งเป็นความผิดตามกฎหมาย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการจับกุมตัว นายคำหลู่ ผู้ต้องหามาดำเนินคดี
ขณะเดียวกันจากการสอบสวน นายคำหลู่ ผู้ต้องหา ได้ให้การกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในภาคเสธว่า ได้มีอะไรกับทางฝ่ายหญิงจริง แต่อ้างว่าฝ่ายหญิงได้มาหาเอง โดยก่อนหน้านั้นได้รู้จักกับเด็กหญิงผู้เสียหายมาประมาณ 4-5 เดือน ผ่านทางเฟสบุ๊ก และพูดคุยกันมาโดยตลอด และอ้างว่ามีความรักใคร่ชอบคอกัน ทางเด็กหญิงผู้เสียหายจึงนั่งรถสาธารณะมาหาฝ่ายชายในเมืองเชียงใหม่ ก่อนจะพากันไปอยู่ที่ห้องพักเกิดเหตุ ซึ่งในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหาดำเนินคดีกับ นายคำหลู่ ในข้อหา “พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดา มารดา ผู้ปกครองหรือผู้ดูแล เพื่อการอนาจารโดยเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ถึงแม้เด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม” และข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ถึงแม้เด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม” ส่วนเด็กหญิงผู้เสียหายนั้นตอนนี้ได้ให้ทางศูนย์พัฒนาสังคมและ ความมั่นคงของมนุษย์เชียงใหม่ ร่วมกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ความดูแล ต่อจากนั้นจะได้ให้ทางเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ เข้าดำเนินการสอบปากคำ
อย่างไรก็ตาม จากกรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้นนี้ ตนอยากฝากเตือนไปถึงผู้ปกครอง และผู้ใช้โซเชียลด้วยว่า การใช้โซเชียลนั้นมีทั้งประโยชน์และโทษ และอยากให้ทางผู้ปกครองคอยเฝ้าระวังติดตามการใช้โซเชียลของบุตรหลานนั้นเป็นสิ่งสำคัญ อย่างกรณีนี้ทางฝ่ายเด็กผู้หญิงก็อ้างว่า ทะเลาะกับมารดา จึงหนีออกจากบ้าน และอยากฝากถึงฝ่ายชายด้วยว่ากรณีเช่นนี้ถือเป็นความผิด ถึงแม้จะอ้างว่าฝ่ายหญิงมาหาเองก็ตาม โดยเฉพาะเด็กหญิงต่ำกว่าอายุ 18 ปี นั้นมีความผิดตามกฎหมาย ดังนั้นในการรู้จักพูดคุยกันจึงควรอยู่ในขอบเขตด้วย
ขณะที่ทางด้าน นายคำหลู่ ผู้ต้องหาได้ให้สัมภาษณ์กับทางผู้สื่อข่าวว่า ตนรู้จักกับน้องผู้หญิงมาได้ประมาณ 3-4 เดือน โดยตนไม่ได้เป็นคนชักชวน แต่น้องผู้หญิงเป็นคนมาหาเอง โดยรู้จักกันผ่านทางเฟสบุ๊ก โดยยอมรับว่าได้มีอะไรกันกับน้องผู้หญิงจริง และไม่ได้กระทำชำเราซึ่งทางฝ่ายน้องผู้หญิงก็ยินยอม โดยน้องผู้หญิงได้เดินทางมาจาก อ.ฝาง ซึ่งก่อนหน้านั้นตนก็บอกกับน้องผู้หญิงแล้วว่าไม่ให้มา แต่มารู้อีกทีคือน้องผู้หญิงโทรศัพท์มาหาตนว่าได้นั่งรถมาลงที่หน้าโรงพยาบาลนครพิงค์แล้ว และตอนนั้นตนก็ยังทำงานอยู่ และขอให้ตนออกไปรับโดยตนก็ปฏิเสธ และขอให้กลับบ้านเพราะกลัวว่าผู้ปกครองของน้องจะเป็นห่วง แต่ทางน้องผู้หญิงก็บอกว่าได้เงินมาแค่ 100 กว่าบาท และเหลือเงินแต่ 40 บาท ตนสงสารน้องจึงได้ออกไปรับและพามาอยู่ด้วย ซึ่งตนยอมรับว่าสิ่งที่ทำลงไปก็เพราะรักน้องผู้หญิง และที่ผ่านมาตนก็พยายามขอให้น้องผู้หญิงกลับบ้านแต่ทางน้องผู้หญิงไม่ยอมกลับ และไม่ยอมติดต่อกับทางบ้านด้วย
นายคำหลู่ ให้การอ้างว่า กรณีที่ตนไม่รู้ว่าน้อง พลอยสวย (นามสมมุติ) อายุต่ำกว่า 15 ปี เพราะน้องไม่ได้บอก และเพิ่งมารู้อีกทีก็ตอนที่มาเห็นบัตรประจำตัวประชาชนของน้องประมาณวันที่ 18-19 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งตอนแรกตนก็คิดว่าน้องอายุ 18 ปี ขึ้นไปแล้ว เพราะรูปร่างของน้องก็โตกว่าเด็กอายุ 14 ปี จึงทำให้ตนมองไม่ออกและไปมีอะไรกัน
