คุมตัวทำแผน “เจ้าของบริษัทรีไซเคิล” ชิงทองร้านทองลำพูนกว่า 50 บาท ส่วนผู้ร่วมก่อเหตุอีก 1 คนยังหลบหนี เจ้าหน้าที่เร่งตามล่าตัว
วันที่ 25 เม.ย. 65 เวลา 11.00 น. พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี รอง ผบช.ภ.5(สส) กำกับดูแล ควบคุม การนำตัวผู้ต้องหาทำแผนการจับกุม โดยได้นำชี้ที่เกิดเหตุคดีชิงทรัพย์ ร้านทองนริศรา ตึกแถวหน้าตลาดจตุจักร อ.เมือง จ.ลำพูน
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2565 เวลาประมาณ 08.12 น. จนท.ตำรวจ สภ.เหมืองจี้ จว.ลำพูน ได้รับแจ้งเหตุชิงทรัพย์ ภายในร้านทองวริศรา ตึกแถวหน้าตลาดจตุจักร ต.ป่าสัก อ.เมืองลำพูน จว.ลำพูน คนร้ายขับรถยนต์กระบะแบบตอนเดียว ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ติดหมายเลขทะเบียน 2กฐ 7517 กรุงเทพมหานคร และใช้ผ้าใบสีฟ้าขาวปิดทับที่ฝากระโปรงรถ มาจอดที่หน้าร้านทองนริศรา และมีคนร้ายเป็นชาย จำนวน 2 คน ลงจากรถ คนที่หนึ่งแต่งกายด้วยเสื้อผ้าชุดสีดำ สวมหมวกกันน๊อค ถืออาวุธปืนพกสั้น และคนร้ายคนที่สองแต่งกายด้วยชุดลายพราง สวมหมวกกันน๊อค ถืออาวุธปืนลูกซองยาว เข้ามาในร้าน และทำการชิงทองคำรูปพรรณ ได้ไปจำนวน 20 เส้น น้ำหนักรวมประมาณ 53 บาท มูลค่าราคาประมาณ 1,703,897 บาท (หนึ่งล้านเจ็ดแสนสามพันแปดร้อยเก้าสิบเจ็ดบาท) แล้วออกจากร้านไปขึ้นรถยนต์ที่จอดไว้หน้าร้านและขับรถยนต์ดังกล่าวหลบหนีไป จึงรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น ซึ่งผู้บังคับบัญชาได้สั่งการให้ระดมสกัดจับคนร้าย
จากนั้นได้สนธิกำลังร่วมกันวางแผนทำการสืบสวนจับกุม โดยตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดได้ทราบทิศทางที่คนร้ายขับรถยนต์หลบหนีไปจากที่เกิดเหตุ จึงตรวจสอบกล้องวงจรปิดจากทิศทางที่หลบหนีไปจนถึง บริษัท รียูส จำกัด ต.ป่าสัก อ.เมืองลำพูน จว.ลำพูน ได้พบเห็นรถยนต์ต้องสงสัยซึ่งมีลักษณะใกล้เคียงกับรถยนต์ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ ซึ่งรถยนต์คันดังกล่าว ติดป้ายทะเบียน ยง 8548 เชียงใหม่ ติดสติ๊กเกอร์สีดำบริเวณฝากระโปรง จอดบริเวณโรงรถของบริษัท รียูส จำกัด จึงขอเข้าไปตรวจสอบ ผลการตรวจสอบพบชุดเสื้อลายพรางทหารและหมวกกันน๊อค จำนวน 2 ใบ , อาวุธปืนพกสั้น จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนลูกซองยาว 1 กระบอก อยู่บริเวณเบาะนั่งของรถยนต์ และพบถาดใส่ทองวางบนพื้นกระบะ ต่อมาได้ตรวจสอบห้องนอนสำนักงานซึ่งอยู่ติดกับที่จอดรถ ผลการตรวจสอบพบทองรูปพรรณ จำนวน 19 เส้น น้ำหนักรวมประมาณ 48 บาท ราคาประมาณ 1,536,000 บาท (หนึ่งล้านห้าแสนสามหมื่นหกพันบาท)
ต่อมาผู้เสียหายได้มาตรวจสอบ ยืนยันว่าทองรูปพรรณที่ตรวจพบดังกล่าวเป็นทองรูปพรรณของร้านทองวริศราที่ถูกประทุษร้ายไปจริง และเมื่อตรวจสอบในห้องพักพบแผ่นป้ายทะเบียน 1กฐ 7517 กรุงเทพมหานคร จึงตรวจยึดเป็นของกลาง จากการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน จนสามารถพิสูจน์ทราบตัวคนร้าย และได้ทำการยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดลำพูน ขอออกหมายจับจากศาลจังหวัดลำพูน ตามหมายจับที่ 117/2565 และ 118/2565 ลงวันที่ 24 เมษายน 2565 ข้อกล่าวหา “ร่วมกันชิงทรัพย์โดยมีอาวุธโดยปกปิดใบหน้าหรือทำด้วยประการอื่นใดเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้ โดยใช้ยานพาหนะ และร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต” เพื่อจับกุมตัว นายศุภกร เกิดมาก อายุ 64 ปี ที่อยู่ ต.ป่าสัก อ.เมืองลำพูน และนายนพรัตน์ เอี่ยมสะอาด อายุ 35 ปี ที่อยู่ ต.ปากโทก อ.เมืองพิษณุโลก จว.พิษณุโลก และต่อมาเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2565 เวลาประมาณ 21.00 น.จนท.ตำรวจได้ร่วมกันจับกุมตัวนายศุภกร เกิดมาก ผู้ต้องหา ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี ส่วนนายนพรัตน์ เอี่ยมสะอาด ยังอยู่ระหว่างการติดตามตัว