รัฐบาลขับเคลื่อนกิจการอวกาศ เตรียมส่งดาวเทียมสำรวจโลกดวงแรกของไทย “THEOS-2” ขึ้นสู่อวกาศต้นปี 2566

441

รัฐบาลขับเคลื่อนกิจการอวกาศ เตรียมส่งดาวเทียมสำรวจโลกดวงแรกของไทย “THEOS-2” ขึ้นสู่อวกาศต้นปี 2566

วันที่ 23 มิถุนายน 2565 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ขับเคลื่อนการลทำงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประเทศไทยและประชาชนทุกกลุ่มใช้ประโยชน์จากดิจิทัลได้อย่างสูงสุด ความคืบหน้าล่าสุด การพัฒนาดาวเทียมเล็ก “THEOS-2” ตามนโยบายของรัฐบาล ที่พัฒนาโดยวิศวกรดาวเทียมชาวไทยกว่า 20 คน จากสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA) ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างดาวเทียมจากประเทศอังกฤษ เป็นเวลากว่า 2 ปี ได้เดินทางถึงประเทศไทยแล้ว ซึ่งขณะนี้ อยู่ระหว่างทดสอบระบบดาวเทียม ณ ศูนย์ประกอบและทดสอบดาวเทียม อุทยานรังสรรค์นวัตกรรมอวกาศ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ก่อนส่งขึ้นสู่อวกาศในต้นปี 2566

blank

สำหรับ ดาวเทียมเล็ก “THEOS-2” เป็นดาวเทียมสำรวจโลกดวงแรกของไทย มีน้ำหนัก 100 กิโลกรัม พร้อมด้วยระบบเซนเซอร์และกล้องถ่ายภาพ ประกอบด้วย กล้องถ่ายภาพโลก กล้องถ่ายภาพดาวเทียม อุปกรณ์วัดสนามแม่เหล็กโลก อุปกรณ์วัดการเคลื่อนไหว อุปกรณ์วัดความเข้มของแสงอาทิตย์ และอุปกรณ์จีพีเอส สามารถบันทึกภาพที่มีรายละเอียดประมาณ 1 เมตร ต่อ pixel  เมื่อส่งขึ้นสู่อวกาศแล้ว จะโคจรรอบโลกวันละ 13-14 รอบ และผ่านประเทศไทย 3-4 รอบต่อวัน ถือเป็นความก้าวหน้าด้านพัฒนากิจการอวกาศของไทย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ

นอกจากนี้ ยังมีความร่วมมือระหว่างสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) บริษัทอุตสาหกรรมการบิน จำกัด (TAI) สมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย (TSC) และสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความเข้าใจว่าด้วยการสร้างความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาทดสอบชิ้นส่วนอากาศยาน เพื่อส่งเสริมและพัฒนาขีดความสามารถที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการบินและอวกาศของประเทศไทย โดยมีระยะเวลาดำเนินงาน 3 ปี  ภายใต้กรอบความร่วมมือของพันธมิตรทั้ง 4 หน่วยงาน สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ได้กำหนดยุทธศาสตร์ชาติในการพัฒนาอุตสาหกรรมภายในประเทศเพื่อการพึ่งพาตนเอง ลดการนำเข้า และเพิ่มความสามารถการแข่งขันในตลาด โดยเฉพาะด้านอุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ (S-Curve 7) และอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ (S-Curve 11)

นางสาวรัชดาฯ กล่าวว่า รัฐบาลมุ่งมั่นผลักดันส่งเสริมการสร้าง และการผลิตชิ้นส่วนอากาศยาน บริภัณฑ์ภาคพื้น และอุปกรณ์สนับสนุนการซ่อมบำรุงอากาศยาน เพื่อสนับสนุนการซ่อมบำรุงอากาศยานพร้อมกับการสนับสนุนจากห้องปฏิบัติการที่ได้มาตรฐานในการทดสอบชิ้นงาน และให้การรับรองคุณภาพความปลอดภัยในการใช้งานตามมาตรฐาน AS9100D ทำให้ผู้ใช้งานมีความเชื่อมั่นในคุณภาพ และความปลอดภัยในชิ้นส่วนอากาศยานที่ผลิตภายในประเทศ รวมทั้ง กระตุ้นความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนในการใช้ประเทศไทยเป็นฐานการประกอบธุรกิจด้านการบินและอวกาศ