คกก.โรคติดต่อเชียงใหม่ ประกาศ “การสวมหน้ากากอนามัย” ให้เป็นการปฏิบัติโดยความสมัคร ยกเว้นสถานที่แออัด เว้นระยะห่างไม่ได้ ผู้ป่วย ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ยังต้องสวม
วันที่ 28 มิถุนายน 2565 ที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ เห็นชอบการออกคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัเชียงใหม่ ที่ 41/2565 มาตรการควบคุมและเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ซึ่งเป็นการออกคำสั่งฯ โดยอาศัยคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ครั้งที่ 12/2565 ลงวันที่ 23 มิถุนายน 2565 ซึ่งมีสาระสำคัญดังนี้ ข้อ 2 การผ่อนคลายข้อปฏิบัติในการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า โดยระบุให้ การสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าให้เป็นการปฏิบัติโดยความสมัครใจ ให้ประชาชนพิจารณาประโยชน์ตามข้อมูลที่ฝ่ายสาธารณสุขรายงานว่า การสวมหน้ากากอย่างถูกวิธีเป็นประโยชน์ด้านสุขอนามัยในการป้องกันการแพร่เชื้อและการรับเชื้อโรคต่างๆ โดยแนะนำให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ร่วมกับบุคคลอื่นในสถานที่หรือในพื้นที่แออัด มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก ไม่สามารถเว้นระยะห่างได้หรืออากาศระบายถ่ายเทไม่ดีเพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อหรือรับเชื้อ รวมถึงกรณีเป็นผู้เข้าข่ายเสี่ยงที่เมื่อติดเชื้อโควิด – 19 จะมีอาการรุนแรงหรือความเสี่ยงสูงต่อการเสียชีวิต (กลุ่ม 608) หรือผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจควรสวมหน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธีตลอดเวลาเมื่อต้องอยู่ร่วมกับบุคคลอื่น เพื่อลดความเสี่ยงในการรับเชื้อ และกรณีเป็นผู้ติดเชื้อโควิด – 19หรือผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจากเชื้อโควิด – 19 จำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธีตลอดเวลา เมื่ออยู่ร่วมกับบุคคลอื่นเพื่อลดความเสี่ยงและป้องกันการแพร่โรค
สาระสำคัญใน ข้อ 3 การผ่อนคลายมาตรการในส่วยของ ร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม สามารถเปิดให้บริการจำหน่ายและการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านได้ โดยต้องดำเนินการภายใต้กฎหมาย กฎ หรือระเบียบที่กำหนด หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการดำเนินการไว้ และต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค เงื่อนไขการจัดระเบียบและระบบต่าง ๆ และคำแนะนำของทางราชการ ส่วนสถานบริการ สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะหรือสถานที่อื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่สามารถเปิดดำเนินการได้ โดยต้องผ่านการตรวจมาตรฐานความสะอาดปลอดภัยป้องกันโรค COVID – 19 รองรับสุขภาพดีวิถีใหม่
(Thai Stop Covid 2 Plus) ของกระทรวงสาธารณสุขโดยกรมอนามัย และให้ผู้ประกอบการหรือผู้มีหน้าที่รับผิดชอบสถานที่ต้องจัดเตรียมสถานที่ให้เป็นไปตามมาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร (COVID – Free Setting) และต้องได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ โดยต้องกำกับดูแลความพร้อมของบุคลากรผู้ให้บริการและผู้เข้ารับบริการให้ปฏิบัติตามเงื่อนไข เงื่อนเวลา และมาตรการป้องกันโรคต่าง ๆ ตามที่ราชการกำหนดขึ้นเป็นการเฉพาะโดยต้องดำเนินการภายใต้กฎหมาย กฎ หรือระเบียบที่กำหนด หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการดำเนินการไว้ และต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค เงื่อนไขการจัดระเบียบและระบบต่าง ๆ และคำแนะนำของทางราชการ
ส่วนสาระสำคัญใน ข้อ 4 มาตรการเฝ้าระวังเพื่อการควบคุมและป้องกันในการจัดกิจกรรมรวมกลุ่มของบุคคลจำนวนมาก ผ่อนคลายให้สามารถทำได้ตามความเหมาะสมโดยให้ปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขที่ทางราชการกำหนดอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ กรณีการจัดกิจกรรมซึ่งมีการรวมกลุ่มของบุคคลจำนวนรวมกันมากกว่า 2,000 คน ให้ผู้รับผิดชอบแจ้งการจัดกิจกรรมต่อคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่
เพื่อเป็นมาตรการเฝ้าระวังและกำกับติดตามมิให้เกิดความเสี่ยงต่อการระบาดแบบเป็นกลุ่มก้อน (Cluster)
ทั้งนี้คำสั่งฯ ฉบับที่ 41/2565 ให้มีผลใช้บังคลตั้งแต่วันที่ 24 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง และให้ยกเลิกคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ฉบับก่อนๆ รวม 4 ฉบับ ได้แก่ คำสั่งฯ ที่ 50/2564 คำสั่งฯ ที่ 36/2565 คำสั่งฯ ที่ 38/2564 และคำสั่งฯ ที่ 40/2564 อีกด้วย