29 ส.ค. 65 นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า วิถีชีวิตที่เร่งรีบของสังคมเมืองและความเครียดสะสมจากการทำงาน ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ไม่มีเวลาดูแลตนเอง โดยเฉพาะการเลือกกินอาหาร มีแนวโน้มบริโภคอาหารสำเร็จรูปหรืออาหารแปรรูปมากขึ้น เช่น น้ำอัดลม มันฝรั่งทอด ไส้กรอกรมควัน เบคอน แฮม ขนมขบเคี้ยว อาหารแช่แข็ง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาหารบรรจุกระป๋องอาหารแปรรูปตามท้องตลาดส่วนใหญ่ผ่านการจัดเตรียม ปรุงรสกลิ่น ปรับเปลี่ยนรูปร่างบรรจุภัณฑ์ เพื่อให้ง่ายต่อการกินและเก็บรักษา อาหารแปรรูปบางชนิดมีการเติมส่วนผสมต่างๆ เช่น สารให้ความหวานแทนน้ำตาล สารเติมแต่งอาหารเพื่อเพิ่มสีสันและกลิ่นให้น่ากินสารกันบูดเพื่อคงความสดใหม่และยืดอายุการเก็บรักษาบางชนิดอาจใส่น้ำตาลธรรมชาติหรือน้ำตาลฟรุกโตสชนิดพิเศษ (High Fructose Corn Syrup) มากเกินไปเพื่อให้อาหารมีรสชาติเนื้อสัมผัสและสีตามที่ต้องการส่งผลให้อาหารแปรรูปมีปริมาณน้ำตาล โซเดียมและไขมันอิ่มตัวสูง ซึ่งหากกินในปริมาณที่มากเกินไป และติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ ทำให้ร่างกายขาดสารอาหาร ผิวพรรณเหี่ยวย่น หย่อนคล้อยดูแก่ก่อนวัย และเสี่ยงสมองเสื่อมได้
นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า หากกินอาหารแปรรูปมากเกินไป จะทำให้ร่างกายเสี่ยงขาดสารอาหารสำคัญ ได้แก่
1) วิตามินและแร่ธาตุต่างๆ พบมากในผักผลไม้ มีส่วนช่วยให้กระบวนการต่างๆ ของร่างกายทำงานได้เป็นปกติ โดยเฉพาะระบบประสาทและกล้ามเนื้อ นอกจากนี้ผักผลไม้หลากสียังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระช่วยป้องกันเซลล์ไม่ให้เกิดความเสียหาย หากร่างกายขาดสารอาหารเหล่านี้จะส่งผลให้เซลล์ถูกทำลายได้ง่าย ผิวหนังเหี่ยวย่นเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร
2) โปรตีน เป็นองค์ประกอบโครงสร้างของเนื้อเยื่อต่างๆ ในร่างกาย ทั้งผิวหนังกระดูก กล้ามเนื้อ เล็บ เอ็น และข้อ โปรตีนยังเป็นสารอาหารสำคัญในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอและใช้สร้างเซลล์ภูมิคุ้มกันต่างๆด้วย อาหารแปรรูปมักจะมีน้ำตาล ไขมัน และโซเดียมสูง แต่มีโปรตีนต่ำ หากร่างกายได้รับโปรตีนไม่เพียงพอ จะทำให้ป่วยง่าย หายช้า ผิวหนังหยาบกร้าน ดูแก่ก่อนวัย และอาจเสี่ยงสมองเสื่อมจากการขาดกรดอะมิโนจำเป็นต่อสมองอย่างทริปโตเฟน ที่พบได้ในเนื้อสัตว์ นม ไข่
3) ใยอาหารมีส่วนสำคัญในการช่วยระบบขับถ่าย ทำให้เกิดกระบวนการหมักในลำไส้ได้กรดไขมันสายสั้นช่วยชะลอภาวะการอักเสบของสมองที่เพิ่มขึ้นตามอายุ สามารถกำจัดเซลล์มะเร็งและลดการอักเสบของลำไส้ใหญ่
อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในตอนท้ายว่า กรมอนามัยจึงขอแนะนำ 7 เคล็ดลับป้องกัน ช่วยให้สมองดีสุขภาพแข็งแรงได้แก่
1) กินผักให้มาก กินผลไม้เป็นประจำ
2) กินธัญพืชไม่ขัดสี ถั่วเปลือกแข็งและถั่วเมล็ดแห้งต่างๆ
3) กินโปรตีนจาก ปลา ไข่ นม เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน
4) ลดอาหาร หวาน มัน เค็ม เลี่ยงอาหารแปรรูป
5) ศึกษาข้อมูลโภชนาการก่อนซื้อทุกครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้กินอาหารมากเกินปริมาณที่กำหนดได้รับพลังงานจากน้ำตาลและไขมันสูงเกินไป ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
6) ดูแลสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสมโดยหลีกเลี่ยงสถานที่มลภาวะสูง
7) มีกิจกรรมทางกายออกกำลังกายเป็นประจำ ผ่อนคลายความเครียดและนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อป้องกันไม่ให้แก่ก่อนวัย และส่งผลดีต่อสมองด้วย