ชาวม่อนแจ่มหลายร้อยคน เคลื่อนขบวนเดินทางมุ่งสู่ศาลากลางเชียงใหม่ เพื่อยื่นถวายฎีกาขอความเป็นธรรมกรณีเจ้าหน้าที่ป่าไม้ดำเนินคดีกับชาวบ้านที่ถือครองที่ดินพร้อมกับเตรียมเข้ารื้อถอนรีสอร์ตทั้งหมด 36 แห่ง
เช้าวันนี้ (5 กันยายน) ชาวม่อนแจ่มหลายร้อยคน เดินถือป้ายเคลื่อนขบวนมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพมหานครเพื่อถวายฎีกา โดยการเคลื่อนไหวครั้งนี้กลุ่มชาวบ้านได้ออกเดินจากจุดชมวิวสามแยกบ้านใหม่ ใจกลางย่านรีสอร์ตบนดอยม่อนแจ่ม ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ไปที่หน้าศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย พูดปราศรัยชี้แจงชาวบ้านก่อนที่มวลชนจะขึ้นรถกระบะนับร้อยคัน มุ่งหน้าไปที่ศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อทวงถามความคืบหน้าหลังกับผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายประจญ ปรัชญ์สกุล หลังจากที่ก่อนหน้านี้ชาวบ้านเคยยื่นถวายฎีกาผ่านทางจังหวัดแต่ไม่มีความคืบหน้า ก่อนที่ในเย็นวันนี้กลุ่มชาวบ้านจะเดินทางเข้ากรุงเทพมหานครเพื่อยื่นถวายฎีการ้องขอความเป็นธรรม
ทั้งนี้ นายเอกนรินทร์ นทีไพรวัลย์ แกนนำชาวบ้าน บอกว่า ชาวบ้านตั้งใจเดินเท้าเข้ากรุงเพื่อแสดงถึงความเดือดร้อนแต่ความตั้งใจขอความช่วยเหลือ แต่เนื่องจากมีเด็ก ผู้หญิงและผู้สูงอายุเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก ทำให้เปลี่ยนแผนใช้รถในการเดินทาง
สำหรับความเคลื่อนไหวครั้งนี้ ประเด็นหลักต้องการเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐมีการพิสูจน์สิทธิ์ตามมติ ครม. ปี 2542 และ ใช้ภาพถ่ายทางวิทยาศาสตร์ในการพิสูจน์สิทธิ์ หากชาวบ้านรุกล้ำทำผิดกฎหมายก็พร้อมถูกดำเนินคดีและรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง แต่สิ่งที่กังวลและเรียกร้องมาตลอดก็คือการที่ป่าไม้นำแผนที่ที่ชาวบ้านเรียกว่าแผนที่ปลอม เป็นแผนที่ที่โครงการหลวงจัดทำขึ้นในปี 2546 ซึ่งในแผนที่ระบุชัดเจนว่าเป็นฉบับที่ยังไม่สมบูรณ์ และ ใช้ในระบบการเกษตรที่ดีหรือจีเอพีเท่านั้น แต่กรมป่าไม้กลับนำไปปรับใช้ ไม่เป็นธรรมกับชาวบ้าน
ส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่รัฐอ้างว่ามีการเปลี่ยนมือที่ดินให้กับนอมินี เป็นวาทะกรรมที่พูดเพื่อสร้างความชอบธรรมในการจับกุมดำเนินคดี ชุมชนที่นี่อยู่กันมานาน อยู่กันกว่า 3,800 คน ถือครองที่ดิน กว่า 2,500 ไร่ ชาวบ้านผู้สูงอายุทุกคนยืนยันไม่มีการซื้อขายที่ดินและบอกเสมอว่าหากจะขายที่ดิน ขายลูกกินยังดีกว่า
