ชาวม่อนแจ่ม เคลื่อนขบวนถึงศาลากลางเชียงใหม่ จี้ “วราวุธ” ทบทวนคำสั่ง ด้านคณะกรรมการสิทธิฯ มีหนังสือขอจังหวัดชะลอรื้อสิ่งปลูกสร้าง เตรียมเข้า กทม. ยื่นถวายฎีกา

393

ชาวม่อนแจ่ม เคลื่อนขบวนถึงศาลากลางเชียงใหม่ จี้ “วราวุธ” ทบทวนคำสั่ง ด้านคณะกรรมการสิทธิฯ มีหนังสือขอจังหวัดชะลอรื้อสิ่งปลูกสร้าง เตรียมเข้า กทม. ยื่นถวายฎีกา

ความคืบหน้ากรณีที่ ชาวบ้านชาวม่อนแจ่ม .แม่ริม .เชียงใหม่ เดินทางจากดอยม่อนแจ่ม มายังศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลงมา และปักหลักหน้าอาคารอำนวยการ อ่านแถลงการณ์เรียกร้องให้ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทบทวนนโยบายและคำสั่งที่กระทำต่อประชาชนชาวม่อนแจ่มที่มุ่งเน้นไปที่มุ่งเน้นไปที่การขับไล่ ส่งเจ้าหน้าที่ป่าไม้คุกคาม บุกรุกเคหสถาน ออกคำสั่งให้รื้อถอนที่อยู่อาศัยใช้กฎหมายที่ถือเป็นการกลั่นแกล้งอย่างไร้จริยธรรม โดยแถลงการณ์บอกด้วยว่าในยุคของนายบรรหาร ศิลปะอาชา เป็นนายกรัฐมนตรี ไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวม่อนแจ่มเลยแม้แต่ครั้งเดียว

blank

นอกจากนี้ยังชี้แจงว่าราษฎรชาวม่อนแจ่มทั้งหมดเป็นชาวไทยภูเขาเผ่าพื้นเมืองชนเผ่าม้ง ทำกินทำประโยชน์และอยู่อาศัยมาก่อนประกาศเป็นที่ดินของรัฐตามกฎหมายครั้งแรก แต่มีการใช้กฎหมายตามพระราชบัญญัติป้าสงวนแห่งชาติ 2507 และที่แก้ไข อันเป็นการออกกฎหมายใช้บังคับย้อนหลัง เพียงแต่หมู่บ้าน ชุมชน ประชาชนไม่ได้ไปแจ้งการครอบครองที่ดินตามประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 ซึ่งกฎหมายนี้ก็ออกมาภายหลังที่เป็นชุมชนหมู่บ้านแล้วเช่นกัน

blank

ส่วนกรณีที่กล่าวหาว่าใช้พื้นที่ผิดวัตถุประสงค์ จากการเกษตรเป็นการท่องเที่ยว ชี้แจงว่าการประกอบอาชีพของชาวบ้านเป็นการดำเนินการภายใต้เจตนารมณ์และวัตถุประสงค์แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน พ.ศ. 2548 หาเป็นการใช้ที่ดินผิดวัตถุประสงค์ไม่และที่สำคัญยังเป็นการประกอบอาชีพโดยสุจริต โดยได้รับการสนับสนุนให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวมีการสนับสนุนงบประมาณการจัดฝึกอบรม เส้นทางการคมนาคม ไฟฟ้า จากทางราชการทั้งสิ้นอีกด้วย

blank

โดยภายหลังอ่านแถลงการณ์แล้ว กลุ่มชาวบ้านได้ส่งตัวแทนเข้าเจรจากับนายวญาณ บุญราช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ โดยตัวแทนชาวบ้านได้ทวงถามความคืบหน้าถึงการดำเนินงานของคณะกรรมการตามแผนแม่บท พร้อมกับทวงถามความคืบหน้ากรณีที่ชาวบ้านเคยยื่นถวายฎีกาผ่านจังหวัดไปก่อนหน้านี้

blank

นอกจากนี้ยังขอให้เร่งพิสูจน์สิทธิการครอบครองของชาวบ้านด้วยการใช้ข้อมูลทางนิติวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีดาวเทียม เนื่องจากการนำแผนที่ของโครงการหลวงมาใช้ดำเนินคดีกับชาวบ้านมีความคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง รวมทั้งขอให้ทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้มีหนังสือขอความร่วมมือมาเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 65 โดยคณะกรรมการสิทธิได้ขอความร่วมมือให้ชะลอการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างในที่ดินพิพาทเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความขัดแย้งระหว่างหน่วยงานรัฐกับประชาชน ที่อาจส่งผลให้เกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อประชาชนในพื้นที่ จนกว่าการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคณะทำงานแก้ไขปัญหาการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอยและบริเวณโดยรอบ จะดำเนินการแล้วเสร็จ

สำหรับการเดินทางเข้าถวายฎีกา กลุ่มชาวบ้านประมาณ 50 คน จะออกเดินทางจากศาลากลางจังหวัดในช่วงเย็นวันนี้และจะยื่นถวายฎีกาในช่วงเช้าพรุ่งนี้ ส่วนมวลชนที่เหลือจะเดินทางกลับดอยม่อนแจ่มเพื่อรอฟังข่าวคืบหน้า