ลูกค้าโพสต์รีวิวร้านก๋วยเตี๋ยวดังย่านสันทราย ไม่ให้ลูกค้าเข้าห้องน้ำ พาทัวร์ลงร้านยับ ด้านร้านแจงวันนั้นส้วมเต็มเป็นเรื่องสุดวิสัย ล่าสุดเข้าแจ้งความหลังชาวเน็ตลามด่าจนลูกค้าหาย
วันที่ 14 มี.ค. 66 เกิดดรามาในสื่อสังคมออนไลน์ ลูกค้าร้านก๋วยเตี๋ยวอารมณ์เสียลูกปวดฉี่แต่ร้านไม่ให้ลูกเข้าห้องน้ำ โพสต์ประจานจนทัวร์ลงหนัก ร้านโพสต์ขอโทษพร้อมชี้แจงเหตุส้วมเต็มแต่ยังไม่ยอมลดราวาศอกจะแชร์จนร้านเจ๊ง ล่าสุดเจ้าของร้านเข้าแจ้งความหลังชาวเน็ตลามด่าจนลูกค้าหาย
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เข้าสอบถามกับทาง นายนัท (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี เจ้าของร้านต้อมก๋วยเตี๋ยวเรือยกซด สาขาหน้าโรงพยาบาลสันทราย อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ เปิดกล้องวงจรปิดที่บันทึกไว้ได้พร้อมกับเล่าให้ฟังว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 11:00 น. วันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา ได้มีลูกค้าเป็นหญิงคนหนึ่งมาพร้อมกับลูกสาววัยประมาณห้าขวบแล้วลูกชายคนน้องอีกหนึ่งคนมานั่งโต๊ะหน้าร้านพร้อมกับสั่งก๋วยเตี๋ยวรับประทานตามปกติ ระหว่างนั้นลูกสาวได้บอกกับแม่ว่าปวดฉี่อยากเข้าห้องน้ำ แม่ถึงขอพนักงานว่าจะขอเข้าห้องน้ำแต่พนักงานก็ได้บอกไปว่าเข้าไม่ได้ ทำให้หญิงสาวดังกล่าวไม่พอใจวางเงินแล้วออกพาลูกออกไปจากร้านทันทีโดยไม่กินก๋วยเตี๋ยวที่สั่งไว้
หลังจากนั้น ปรากฏว่าช่วงค่ำวันเดียวกันได้เห็นว่าหญิงสาวคนดังกล่าวได้ไปโพสต์ในเฟซบุ๊กรีวิวร้าน โดยใช้คำพูดในลักษณะประจานว่าร้านใจดำ เด็กปวดฉี่แต่ก็ไม่ยอมให้เข้าห้องน้ำ พร้อมกับส่งข้อความทางอินบอกซ์มาว่าร้านบริการห่วยมาก นอกจากนี้ยังแชร์เรื่องราวไปในกลุ่มต่าง ๆ อีกหลายกลุ่มจนทำให้ชาวเน็ตมาแสดงความคิดเห็นต่อว่าทางร้านจนเสียหาย ลามด่าไปสารพัด
หลังจากนั้นทางร้านได้โพสต์ขอโทษลูกค้าพร้อมกับชี้แจงว่าวันเวลาดังกล่าวห้องน้ำส้วมเต็มจริงๆ และพนักงานอาจคิดแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไม่ทัน เรื่องที่เกิดขึ้นร้านก็ไม่ได้นิ่งนอนใจได้ลติดต่อรถดูดส้วมเข้ามาทันที แต่เนื่องจากวันเป็นวันอาทิตย์รถดูดส้วมหยุดให้บริการและจะมาให้บริการในวันจันทร์ที่ 13 มีนาคม 2566 อยากให้ทุกคนเข้าใจและขอให้ช่วยโพสต์แก้ไขตามข้อเท็จจริงที่ร้านได้ชี้แจง แต่ลูกค้าคนดังกล่าวก็ไม่ยอมและยังโพสต์ด้วยว่า “ร้านมึงต้องเจ๊ง กูบอกเลย” พร้อมอินบ็อกซ์มาบอกว่าจะไม่ลบโดยบอกว่าวันดังกล่าวพนักงานไม่ได้ชี้แจงให้เข้าใจและชักสีหน้าและบอกว่าเธอมีสิทธิ์ที่จะรีวิวในฐานะลูกค้า
เจ้าของร้านบอกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ร้านเสียชื่อเสียงจึงจำเป็นต้องเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน หากหลังจากนี้ยังไม่ยอมหยุดทางร้านได้รับผลกระทบในทางธุรกิจก็จะเข้าแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาท พร้อมขอให้ชาวเน็ตได้เข้าใจถึงเหตุผลด้วย
