ฝังจีพีเอสในไม้ประดู่ ชุดพญาเสือตามยึดล็อตใหญ่ซุกโรงงานแปรรูปที่เชียงใหม่ พบลอบตัดจากเขตห้ามล่าสัตว์ป่า อธิบดีกรมอุทยานฯ รุดตรวจพร้อมประสานทีมบิ๊กโจ๊กร่วมขยายผลหลังพบเจ้าหน้าที่ป่าไม้ มีเอี่ยว
วันที่ 7 เมษายน 2566 นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมด้วย นายกริชสยาม คงสตรี ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 เข้าตรวจสอบโรงงานแปรรูปไม้แห่งหนึ่งใน ต.ป่าป้อง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ หลังจากหน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า หรือ ชุดพญาเสือ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำหมายศาลเข้าตรวจค้น และยึดไม้ประดู่ขนาดใหญ่ 11 ท่อน ที่พบว่าลักลอบตัดจากเขตห้ามล่าสัตว์ป่าห้วยผึ้งวังยาว จ. อุตรดิตถ์ นำมาเก็บไว้ที่โรงงานแปรรูปไม้แห่งนี้และยังอายัดไม้ประดู่อีก 360 ท่อนที่พบในโรงงานไว้ตรวจสอบ
โดยโรงงานแห่งนี้เปิดกิจการเป็นโรงเลื่อยแปรรูปไม้ขนาดใหญ่ ภายในพื้นที่ตรวจพบไม้ประดู่ท่อนที่ไม่พบรูปรอยดวงตราประทับไม้ของพนักงานเจ้าหน้าที่กองอยู่จำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมกันตรวจอายัดเป็นกลาง
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ เจ้าหน้าที่พบการลักลอบตัดไม้ประดู่จำนวนหนึ่งในเขตห้ามล่าสัตว์ป่า ห้วยผึ้ง-วังยาว อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ ต่อมาวันที่ 2 มีนาคม หน่วยพญาเสือทำการฝัง เครื่องติดตามผ่านดาวเทียมเข้าไปในท่อนไม้ เพื่อติดตามเส้นทางการเคลื่อนย้าย
จากนั้นวันที่ 16 มีนาคม สัญญาณระบุไม้ถูกเคลื่อนย้ายไปเก็บไว้ในโกดังที่ ต.น้ำไคร้ อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ ก่อนที่จะถูกเคลื่อนย้ายมาที่โรงงานแปรรูปไม้ที่ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 6 เมษายน นำไปสู่การขอหมายค้นจากศาลจังหวัดเชียงใหม่และเข้าตรวจยึดไม้ที่ถูกลักลอบตัดทั้ง 11 ท่อน โดยในส่วนของไม้ทั้ง 11 ท่อน ผู้ครอบครองจะถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ ส่วนไม้ประดู่ที่พบในโรงงานอีก 360 ท่อน หากไม่สามารถแสดงหลักฐานการได้มาที่ถูกต้อง จะถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ โดยมูลค่าความเสียหายทั้งหมด 371 ท่อน 6,689,200 บาท สำหรับโรงงานแปรรูปไม้แห่งนี้ตรวจสอบพบว่าขออนุญาตประกอบกิจการโรงเลื่อยถูกต้องและพบว่าหนึ่งในหุ้นส่วนบริษัทเป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ในสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดราชบุรี
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ทีมงานกรมอุทยานฯ ได้ติดตามปัญหาการลักลอบตัดไม้ประดู่มาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดพบการลักลอบตัดในพื้นที่ จ.อุตรดิตถ์ จึงฝังจีพีเอสจนกระทั่งขอหมายศาลเข้าตามยึดได้ โดยหลังจากนี้จะให้มีการพักใช้ใบอนุญาต หากผู้ประกอบการไม่มีเอกสารการได้ไม้ประดู่มาอย่างถูกต้องก็จะถูกดำเนินคดีและจะสั่งเพิกถอนใบอนุญาต ส่วนเจ้าของโรงงานหากไม่มาแสดงตัวพบเจ้าหน้าที่ก็จะให้พนักงานสอบสวนออกหมายเรียก หากไม่มาก็จะออกหมายจับตามลำดับ
ส่วนที่ตรวจสอบพบพนักงานราชการสังกัดกรมป่าไม้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง จะมีการสอบสวนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไรและจะต้องดำเนินการตามระเบียบทั้งทางวินัยและกฎหมายอย่างเด็ดขาด ซึ่งเรื่องนี้ก็ได้เรียนไปที่อธิบดีกรมป่าไม้ให้ทราบแล้ว นอกจากนี้ได้ประสานไปยัง พล.อ.สุรเชษฐ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ส่งทีมเข้าร่วมขยายผล เพราะถือคดีใหญ่และเป็นเครือข่ายค้าไม้ข้ามชาติ