เพื่อนบ้านเผาหนักมาก เมียนมาจุดความร้อนพุ่ง 14,849 จุด สูงสุดในรอบ 5 ปี ส่วนไทยพบจุดความร้อน 1,763 จุด

131

เพื่อนเบาได้เบา พม่าสูงปรี๊ดในรอบ 5 ปี กว่า 1.4 หมื่นจุด ส่วนไทยพบจุดความร้อนไทยเพิ่มขึ้นถึง 1,763 จุด ส่วนป่าอนุรักษ์ยังพบจุดความร้อนสูงสุด 818 จุด

GISTDA เผยข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) ของวันที่ 10 เมษายน 2566 ไทยพบจุดความร้อน 1,763 จุด ในขณะที่เมียนมาร์ยังนำอยู่ที่ 14,849 จุด, สปป.ลาว 3,676 จุด, เวียดนาม 271 จุด ,กัมพูชา 228 จุด และมาเลเซีย 66 จุด
จุดความร้อนในประเทศไทย ยังคงพบในพื้นป่าอนุรักษ์มากที่สุด 818 จุด ตามด้วยป่าสงวนแห่งชาติ 563 จุด, พื้นที่เกษตร 199 จุด, พื้นที่ชุมชนอื่นๆ 91 จุด , พื้นที่เขต สปก. 83 จุด และพื้นที่ริมทางหลวง 9 จุด ในส่วนของจังหวัดที่พบจุดความร้อนมากที่สุด 3 อันดับ คือ เชียงราย 286 จุด, เชียงใหม่ 258 จุด, แม่ฮ่องสอน 201 จุด
สิ่งหนึ่งที่ต้องเฝ้าระวังที่มักจะมากับเหตุการณ์ไฟป่าและจุดความร้อนคือ PM 2.5 สถานการณ์จุดความร้อนจากประเทศเพื่อนบ้านอาจส่งผลให้เกิด PM 2.5 ได้ในพื้นที่บริเวณชายแดนเนื่องจากได้รับอิทธิพลจากกระแสลมที่จะพัดผ่านเข้ามา ประกอบกับภูมิประเทศทางภาคเหนือของไทยมีลักษณะเป็นหุบเขาแอ่งกระทะ จึงมีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกับการพัดและการเคลื่อนตัวของกระแสลมในพื้นที่เป็นสำคัญ
ปัญหาไฟป่าหมอกควัน ส่งผลกระทบให้กับระบบต่างๆ ของประเทศมาโดยตลอด โดยเฉพาะระบบเศรษฐกิจ ระบบสังคม และสิ่งแวดล้อม ดังนั้น ในอนาคตอันใกล้นี้ ประเทศไทยกำลังจะได้ใช้ระบบ THEOS-2 อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่ง 1 ในภารกิจสำคัญของระบบนี้ คือการสำรวจ วิเคราะห์ และติดตามสถานการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นหรือคาดว่าจะเกิดขึ้น ได้อย่างแม่นยำและทันท่วงที เพื่อการสนับสนุนข้อมูลสำคัญให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำข้อมูลไปใช้วางแผน ป้องกัน บรรเทา และแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม รายละเอียดข้อมูลเฉพาะพื้นที่ท่านสามารถติดตามจากหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบโดยตรงได้ GISTDA ยังคงติดตามและรายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นข้อมูลให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำไปใช้บริหารจัดการในพื้นที่
blank