21 เม.ย. 66 – โลกอาจทำลายสถิติอุณหภูมิเฉลี่ยใหม่ในปี 2566 หรือ 2567 ซึ่งได้รับแรงหนุนจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการกลับมาของปรากฏการณ์สภาพอากาศ เอลนีโญ (El Niño) ที่คาดการณ์ไว้
รูปแบบของสภาพอากาศแสดงให้เห็นว่าหลังจาก 3 ปีที่ต้องเผชิญกับสภาพอากาศจากลานีญาในมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งจะทำให้อุณหภูมิโลกลดลงเล็กน้อย โลกกำลังกลับไปเผชิญกับปรากฎการณ์เอลนีโญ ซึ่งจะทำให้สภาพอากาศร้อนเพิ่มขึ้นอีกครั้งในปลายปีนี้
ปรากฎการณ์เอลนีโญเกิดขึ้นเมื่อลมที่พัดไปทางทิศตะวันตกตามแนวเส้นศูนย์สูตรพัดช้าลง และกระแสน้ำอุ่นจะถูกผลักไปทางตะวันออก ทำให้อุณหภูมิพื้นผิวของมหาสมุทรอุ่นขึ้น
คาร์โล บูออนเทมโป ผู้อำนวยการหน่วยบริการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโคเปอร์นิคัส ของสหภาพยุโรปชี้ว่า “ปกติแล้วปรากฏการณ์เอลนีโญจะเกี่ยวข้องกับการทำลายสถิติอุณหภูมิในระดับโลก ซึ่งการทุบสถิติของอุณหภูมิโลกจะเกิดขึ้นในปี 2023 หรือ 2024 หรือไม่นั้นยังไม่รู้แน่ชัด แต่ผมคิดว่าน่าจะมีความเป็นไปได้มากกว่าไม่ได้ แบบจำลองสภาพภูมิอากาศบ่งชี้ว่า สภาพอากาศเอลนีโญจะกลับมาในช่วงปลายฤดูร้อนที่ซีกโลกเหนือ และมีความเป็นไปได้ที่เอลนีโญจะรุนแรงขึ้นในช่วงปลายปีนี้”
ทั้งนี้ ปีที่ร้อนที่สุดในประวัติศาตร์คือปี 2559 ซึ่งเกิดปรากฎการณ์เอลนีโญที่รุนแรง อย่างไรก็ดีการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกก็กระตุ้นให้อุณหภูมิโลกพุ่งสูงขึ้น แม้ในช่วงหลายปีที่ไม่เกิดเอลนีโญขึ้นก็ตาม
ที่มา : reuters