ครม. อนุมัติ งบประมาณสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน 10,464 ล้านบาท ช่วยเหลือลดภาระค่าไฟประชาชน เพื่อขอความเห็นชอบจาก กกต.
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 2 พฤษภาคม 2566 อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2566 งบกลางวงเงิน 10,464 ล้านบาท สำหรับดำเนินมาตรการในช่วงเดือนพฤษภาคม 2566 ถึงเดือนสิงหาคม 2566 เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนจากสถานการณ์ราคาพลังงาน โดยให้ส่วนลดไฟฟ้าแบบขั้นบันไดแก่ผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือนและส่วนลดค่าไฟฟ้าสำหรับงวดเดือนพฤษภาคม 2566 จำนวน 150 บาทต่อรายซึ่งเป็นผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 500 หน่วยต่อเดือน เพื่อเป็นการลดภาระค่าครองชีพของประชาชน โดยแบ่งสัดส่วนการขอจัดสรรงบประมาณสำหรับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยและกิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือจำนวน 35.70 ล้านบาท และการไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จำนวน 10,428.30 ล้านบาท
ทั้งนี้ 2 มาตรการที่กระทรวงพลังงานนำเสนอเป็นการดำเนินการตามรัฐธรรมนูญมาตรา 169(3) ที่กำหนดให้ ไม่ให้กระทำการอันมีผลเป็นการอนุมัติให้ใช้จ่ายงบประมาณสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เว้นแต่จะได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก่อนรวมทั้งเป็นไปเพื่อรักษาความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศและช่วยบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าของประชาชน
แผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณที่ขอรับจัดสรร ดังนี้
1. มาตรการต่อเนื่องของกระทรวงพลังงาน ที่ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ราคาพลังงาน ที่ดำเนินการอยู่ในช่วงมกราคม – เมษายน 2566 สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่เป็นผู้ใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ของการไฟฟ้านครหลวงการไฟฟ้าส่วนภูมิภาครวมทั้งผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่เป็นผู้ใช้ไฟฟ้ารายย่อยของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และผู้ใช้ไฟฟ้าในพื้นที่บริการของกิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ โดยเป็นมาตรการช่วยเหลือในส่วนของการให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าแบบขั้นบันได เป็นเวลา 4 เดือนสำหรับค่าไฟฟ้าประจำเดือนพฤษภาคม -สิงหาคม 2566 โดยกำหนดให้เป็นส่วนลดค่าไฟฟ้าก่อนการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มวงเงิน 6,954 ล้านบาทโดยมีรายละเอียด ดังนี้
– ผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัย (ค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (Ft) รอบเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2566 อยู่ที่ 91.19 สตางค์ต่อหน่วย)
1- 150 หน่วย ส่วนลดค่าไฟฟ้า 89.80 สตางค์ต่อหน่วย ผลต่างค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ (Ft) เรียกเก็บและส่วนลด 1.39 สตางค์ต่อหน่วย
151-300 หน่วย ส่วนลดค่าไฟฟ้า 64.80 สตางค์ต่อหน่วย ผลต่างค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ (Ft) เรียกเก็บและส่วนลด 26.39 สตางค์ต่อหน่วย
301 หน่วยขึ้นไป ผลต่างค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ (Ft) เรียกเก็บและส่วนลด 91.19 สตางค์ต่อหน่วย
งบประมาณที่ใช้สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าทั่วประเทศ 6,954 ล้านบาท (1,738.50 ล้านบาทต่อเดือน)
ผู้ใช้ไฟฟ้าได้รับประโยชน์ 18.32 ล้านราย เท่ากับร้อยละ 78.42 ของบ้านอยู่อาศัยทั้งหมด
2. มาตรการช่วยเหลือประชาชนระยะเร่งด่วน ในส่วนของค่าไฟฟ้า
สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่เป็นผู้ใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ของการไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค รวมทั้งผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่เป็นผู้ใช้ไฟฟ้ารายย่อยของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และผู้ใช้ไฟฟ้าในพื้นที่บริการของกิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ โดยเป็นการลดค่าไฟฟ้าในรอบบิลเดือนพฤษภาคม 2566 จำนวน 150 บาทต่อราย จำนวนประมาณ 23.40 ล้านราย ใช้วงเงินงบประมาณรวมในกรอบไม่เกิน 3,510 ล้านบาท โดยกำหนดให้เป็นส่วนลดค่าไฟฟ้าก่อนการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม
ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรี จะได้นำเสนอคณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณา ให้ความเห็นชอบการใช้งบประมาณสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ตามที่รัฐธรรมนูญมาตรา 169(3) กำหนดต่อไป