27 มิ.ย. 66 – เป็นเรื่องราวที่เกิดการผู้ถึงอย่างมากในโลกออนไลน์ หลังจาก รศ.ดร.นพ.วัชรพล อเล็กซองดร์ กำเนิดศิริ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Dr. Med. Watcharaphol Alexandre Kamnerdsiri กล่าวถึงเรื่องการให้บริการบนสายการบินดังแห่งหนึ่ง ระบุว่า
“สวัสดีครับ ผมเพิ่งบินมาถึงโจฮันเนสเบิร์กเมื่อเช้านี้ โดยจะอยู่ที่นี่ 2 คืน และวันเสาร์ผมก็จะบินไปยังเกาะเซนต์เฮเลน่า ตามที่วางแผนไว้
ผมเคยเขียนถึงสายการบินไทยและการบริการ 2 มาตรฐานที่เกิดขึ้นในเครื่องตอนที่ผมบินกลับจากปารีสมากรุงเทพฯ กับการบินไทยครั้งล่าสุด ในโพสท์ก่อนหน้า ในโพสท์นี้ ผมจึงอยากนำเสนอว่า สายการบินลุฟท์ฮันซ่า (LH) ปฏิบัติกับผมอย่างเท่าเทียมกับผู้โดยสารท่านอื่น โดยมาตราฐานการบริการเดียวกันทั้งลำ
ต้องบอกว่า ตั๋วสายการบินไทยนั้นแพงมาก และการบริการก็ไม่ได้เด่น ออกจะไปทางด้อยเสียด้วยซ้ำ ผมเคยชอบสายการบินไทย ตั้งแต่ก่อน TG จะควบรวมกิจการกับเดินอากาศไทย (TA) แต่หลังจากนั้น การบินไทยก็ดิ่งลงใน performance มีอย่างเดียวที่เพิ่มขึ้นคือราคา
ผมมีแผนจะเดินทางกลับเมืองไทยอีกครั้งในเดือนตุลาคม รอบนี้ผมจะบินเข้าไทยด้วยสายการบินแอร์อินเดีย (AI) ในชั้นธุรกิจ และก็จะบินด้วยสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ (SQ) ในชั้นธุรกิจ ออกจากกรุงเทพฯ ไปสิงคโปร์ และบินต่อไปยังซิดนีย์ ออสเตรเลีย จากนั้นผมก็จะบินจากซิดนีย์ไปโอ๊คแลนด์ ด้วยสายการบินแอร์นิวซีแลนด์ (NZ) ส่วนขากลับผมจะบินออกจากโอ๊คแลนด์ ไปสิงคโปร์ก่อนจะต่อเครื่องกลับกรุงเทพฯ
ที่ผมเลือกบินสายการบินแอร์อินเดีย ในชั้นธุรกิจ ก็เพราะผมอยากจะลองเปรียบเทียบดูว่า ในพันธมิตรสายการบินกลุ่มดาว (Star Alliance) ซึ่งแอร์อินเดียก็เป็นหนึ่งในพันธมิตรนั้นเช่นเดียวกับการบินไทย จะมีการให้บริการที่แตกต่างมากแค่ไหน แล้วผมจะเขียนให้อ่านกัน ในส่วนของสายการบินลุฟท์ฮันซ่านั้น ผมเป็นผู้โดยสารบัตรทอง (LH*G) ของลุฟท์ฮันซ่า ซึ่งเรียกว่า Senator มาอย่างยาวนาน รวมเป็นเวลา 22 ปีแล้ว ที่ผมไม่เคยหล่นจากสถานะบัตรทองของสายการบิน Lufthansa เลย
ทั้งนี้ เกณฑ์การได้บัตรทองสายการบินลุฟท์ฮันซ่า คือ ต้องบินให้ได้ปีละ 1 แสนไมล์ ซึ่งไม่ง่าย แต่ผมก็ชอบสายการบินนี้ จนยอมไปเทรน สอบเป็นแพทย์อาสา ช่วยผู้โดยสารบนเครื่องในยามฉุกเฉินให้กับกลุ่มสายการบินลุฟท์ฮันซ่า ตามที่เคยเขียนให้ FC ได้อ่านแล้ว ในเที่ยวบินมาโจฮันเนสเบิร์กเที่ยวนี้ ผู้โดยสารเต็มทุกคลาส (F/C/Y) แต่การบริการกลับทำได้ตามมาตรฐานดีมาก
ถึงผมจะเป็นผู้โดยสารเอเชีย แต่คุณแอร์ก็เข้ามานั่งรับออร์เดอร์ ไม่ยืนค้ำหัวผมต่างกับแอร์การบินไทยที่ยืนค้ำหัวผมและคนไทยท่านอื่น แต่กับฝรั่งหัวทองก็สามารถนั่งลงบริการอย่างดี ผมเชื่อว่า ถ้าการบินไทยให้บริการอย่างเท่าเทียมกับผู้โดยสารทุกคน ไม่แปลกแยก จะได้ใจผู้โดยสารคนไทยไปเต็มๆ เลย
มีรูปถาดอาหารชั้นธุรกิจ จากผู้โดยสารที่ได้บินกับสายการบิน KLM ของเนเธอร์แลนด์ ที่ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ว่า สายการบินนี้เลือกเสริฟท์อาหารสำรับไทยได้น่าทานกว่าการบินไทยมากแค่ไหน รอบหน้าผมคงต้องหาโอกาสใช้บริการสายการบิน KLM บ้างแล้ว
พรุ่งนี้ผมว่าง ก็เลยว่าจะไปทัวร์โจฮันเนสเบิร์ก 1 วันเต็ม และนำรูปมากฝาก FC กัน ในช่วงทริปนี้ ผมอาจจะโพสท์ถี่หน่อย ถ้ายังไม่เบื่อกันเสียก่อน เข้ามาเขียนคอมเมนท์ให้ผมอ่านบ้างนะครับ
อนึ่ง สายการบิน Lufthansa มีชุดนอนให้ผู้โดยสารชั้นธุรกิจ มีแผ่นฟูกปูรองที่นอน มีเคาท์เตอร์อาหารว่างระหว่างไฟล์ท แม้จะสู้ Singapore Airlines ไม่ได้ แต่สำหรับมาตรฐานการบริการของสายการบินของยุโรปแล้ว ผมว่าไม่แย่เลยครับ
ปล. ผมเพิ่มรูปในโพสท์ 2 รูปสุดท้าย เพื่อเปรียบเทียบระหว่างการให้การบริการของพนักงานต้อนรับสายการบินไทย ในการให้บริการผู้โดยสารชาวไทยกับผู้โดยสารชาวต่างชาติ บนเครื่องการบินไทยไฟล์ทล่าสุดของผม ให้ FC ได้พิจารณา เมื่อเทียบกับการให้บริการผู้โดยสารของพนักงานต้อนรับสายการบินลุฟท์ฮันซ่าในโพสท์นี้
ติเพื่อก่อนะครับ อยากให้การบินไทยรักผู้โดยสารไทยเพิ่มขึ้นมาบ้าง หรือแค่ให้เท่าเทียมกับผู้โดยสารชาวต่างชาติ ไม่ให้เกิดความรู้สึกเปรียบเทียบ ก็ยังดี”
หลังจากเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปชาวเน็ตต่างเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก ทั้งมีได้มีดาราสาว “กระติ๊บ ชวัลกร” ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นด้วย ระบุว่า “หมดเวลาให้คนมานั่ง หมอบ คลาน บริการแล้วค่ะ หน้าที่ของแอร์คือ ดูแลผู้โดยสารให้ปลอดภัยไม่ได้มาเป็นทาสคลานเข่าค่ะ ถ้าอยากให้คนหมอบ ประเคน แนะนำให้ไปบวชเป็นพระค่ะ”