เปิดเบื้องลึกเบื้องหลัง องค์กรฯศรีลังกาที่ขับเคลื่อนจนนำ “พลายศักดิ์สุรินทร์” กลับไทยได้ แต่ตัวองค์กรต้องถูกชาวศรีลังกา กล่าวหาว่าขายชาติ
วันที่ 3 กรกฎาคม 2566 เฟซบุ๊ก “Bhanuwat Jittivuthikarn” โพสต์ถึงกรณีการนำช้างพลายศักดิ์สุรินทร์กลับไทย ระบุว่า ผมอยากเขียนขอบคุณ องค์กร NGO องค์กรหนึ่งของลังกา ชื่อว่า Rally for Animal Rights and Environment, หรือ RARE ที่ได้ต่อสู้ เพื่อช้างไทยตัวนี้ มาถึงสามปี โดยทีมงาน RARE พยายามทำทุกอย่าง ตลอดสามปีที่ผ่านมา เพื่อ นำพลายศักดิ์สุรินทร์ ออกจากวัด Kande Viharaya Temple มารักษา เคยมีการส่งเรื่องให้ กรมอนุรักษ์คุ้มครองสัตว์ของลังกา ตั้งแต่ปี 2020 ว่า พลายศักดิ์สุรินทร์โดนทรมาน แต่ไม่ได้รับการสนใจ จนต้องมาที่ทางเลือกสุดท้าย คือติดต่อรัฐบาลไทย จนประสบความสำเร็จ พาพ่อพลายกลับไทยได้ในวันนี้
ช้างพลายศักดิ์สุรินทร์ หรือ “มธุราชา” (Muthu Raja) เป็นหนึ่งในช้าง 3 เชือกที่รัฐบาลไทยมอบให้รัฐบาลศรีลังกา ตั้งแต่ปี 2544 โดยรัฐบาลศรีลังกาได้มอบพลายศักดิ์สุรินทร์ให้แก่วัด Kande Vihara เป็นผู้ดูแล เพื่อเชิญพระบรมสารีริกธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในงานแห่พระธาตุประจำปีของศรีลังกา (พระธาตุเขี้ยวแก้ว) ซึ่งจัดมานานนับ 270 ปี
ทั้งนี้พลายศักดิ์สุรินทร์เดินทางจากเมืองไทยไปอยู่ที่ประเทศศรีลังกาตั้งแต่เป็นลูกช้างอายุไม่ถึง 10 ปี จนวันนี้มีอายุราว 30 ปี ถือเป็นช้างที่มีงาสวยงามมีคชลักษณ์โดดเด่นตรงตามความต้องการของศรีลังกา โดยตอนที่อยู่ประเทศไทยไทย มีนายทองสุก มะลิงาม ควาญช้างไทยเป็นเจ้าของผู้ดูแล
ต่อมาเมื่อเดือนพฤษภาคม 2565 กระทรวงการต่างประเทศได้รับแจ้งจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมว่า องค์การ Rally for Animal Rights & Environment (RARE) ซึ่งเป็นองค์การด้านการพิทักษ์สิทธิสัตว์ในศรีลังกา ร้องเรียนเกี่ยวกับการใช้แรงงานพลายศักดิ์สุรินทร์ที่ค่อนข้างหนัก และพลายศักดิ์สุรินทร์ไม่ได้รับการดูแล และควรได้รับการรักษาพยาบาลอย่างเร่งด่วน
กระทรวงการต่างประเทศหารือเรื่องข้างต้นกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นการเร่งด่วน และได้สั่งการให้สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโคลัมโบ เข้าตรวจสอบ ต่อมาเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2565 สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโคลัมโบ ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเบื้องต้น พบว่า พลายศักดิ์สุรินทร์มีสุขภาพและสภาพความเป็นอยู่ไม่ดีนัก จึงได้ร่วมกับคณะสัตวแพทย์และผู้เชี่ยวชาญไทยจากกรมอุทยาน สัตว์ป่า และพันธุ์พืช องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์ และองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ เดินทางไปตรวจสุขภาพและความเป็นอยู่ของพลายศักดิ์สุรินทร์อีกครั้ง โดยเรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นที่สนใจของสื่อมวลชนในวงกว้าง
หลังจากการตรวจสอบคณะสัตวแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเห็นว่า ควรให้พลายศักดิ์สุรินทร์หยุดการทำงานและส่งตัวกลับมารักษาอาการป่วยที่ประเทศไทย ซึ่งตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน 2565 พลายศักดิ์สุรินทร์ถูกนำตัวไปรักษาและฟื้นฟูสุขภาพเบื้องต้นที่สวนสัตว์ Dehiwala โดยมีคณะผู้เชี่ยวชาญไทยและศรีลังกาให้การดูแล จากนั้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 รัฐบาลศรีลังกาเห็นชอบ ว่าพลายศักดิ์สุรินทร์ ควรได้รับการดูแลสุขภาพที่เหมาะสมโดยเร่งด่วน และเห็นชอบให้นำพลายศักดิ์สุรินทร์กลับมามารักษาอาการป่วยที่ประเทศไทย