ตั้งแล้ว “กรมโลกร้อน” หรือ กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม มีผลตั้งแต่ 18 ส.ค.

163

ตั้งแล้ว “กรมโลกร้อน” หรือ กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม มีผลตั้งแต่ 18 ส.ค. เพื่อให้ประเทศไทยมีหน่วยงานรองรับการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างชัดเจนเป็นรูปธรรมโดยตรง

เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2566 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) เปิดเผยว่า วันนี้ ประเทศไทยได้มี “กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม” จัดตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว ภายหลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ เปลี่ยนชื่อ “กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม” เป็น “กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม” โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้ (18 สิงหาคม 2566) เป็นต้นไป นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณต่อปวงชนชาวไทย และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างหาที่สุดมิได้ เนื่องจากปัจจุบันปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก หรือปัญหาภาวะโลกร้อน กำลังเป็นปัญหาสำคัญเร่งด่วนที่ทั่วโลกต่างกำลังเร่งสร้างความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาร่วมกันอย่างจริงจัง โดยเฉพาะเมื่อเลขาธิการสหประชาชาติได้ออกมาชี้เมื่อเร็ว ๆ นี้ ว่า อุณหภูมิของพื้นผิวโลก และอุณหภูมิของมหาสมุทรในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาในปีนี้ อยู่ในระดับสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ เป็นสัญญาณเตือนว่า เรากำลังเริ่มต้นสิ้นสุดยุคของ “ภาวะโลกร้อน” (Global Warming) และกำลังเข้าสู่ยุค “ภาวะโลกเดือด” (Global Boiling) แล้ว ดังนั้น การตั้งกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ในครั้งนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้ประเทศไทยมีหน่วยงานรองรับการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างชัดเจนเป็นรูปธรรมโดยตรง

“ผมได้กำชับให้ท่านปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ท่านจตุพร บุรุษพัฒน์ กำกับติดตามการเปลี่ยนผ่านจากกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ไปสู่กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม อย่างใกล้ชิด เพื่อให้การดำเนินงานตามภารกิจของหน่วยงานเป็นไปอย่างต่อเนื่องราบรื่นไร้ข้อติดขัด ร่วมกับท่านอธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมคนแรก คือ ท่านสมศักดิ์ สรรพโกศลกุล ซึ่งจะทำหน้าที่ต่อเนื่องจากหน้าที่อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม และหลังจากนี้ รอเพียงการประกาศกฎกระทรวงการปรับปรุงโครงสร้างการแบ่งส่วนราชการของกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม และสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ก็จะทำให้กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ที่มีโครงสร้างการทำงานปรับปรุงจากโครงสร้างเดิมของกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม และมีโครงสร้างส่วนหนึ่งมาจาก กองประสานการจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ของสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีโครงสร้างการทำงานที่สมบูรณ์ พร้อมเริ่มงานตามภารกิจได้ทันที” นายวราวุธ กล่าว