22 ส.ค. 66 – หลังจากวันนี้ ที่ประชุมรัฐสภา มีมติเห็นชอบ 482 เสียง ส่ง “เศรษฐา ทวีสิน” เป็นว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย ซึ่งประชาชนหลายคนต่างให้ความสนใจจำนวนมาก โดยเฉพาะนโยบายที่ทางพรรคเพื่อไทยได้เคยหาเสียงไว้ และนโยบายที่ได้รับความสนใจเป็นมากพิเศษคือ “นโยบายเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท” และไม่กี่วันที่ผ่านมาทางพรรคเพื่อไทยได้โพสต์ถึงนโยบายดังกล่าว ระบุไว้ว่า
ประเทศไทยเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจถดถอยอย่างหนักต่อเนื่องมาหลายปี พรรคเพื่อไทย จึงมุ่งมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าเมื่อเป็นรัฐบาลจะเดินหน้า ‘นโยบาย Digital wallet 10,000 บาท’ อย่างเร่งด่วน เพื่อเป็นการกระจายรายได้สู่ชุมชน บรรเทาปัญหาปากท้องให้พี่น้องประชาชน และกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ให้ระบบเศรษฐกิจกลับมาหมุนเวียนอีกครั้ง โดย
1. คนไทยอายุ 16 ปีขึ้นได้ จะได้เงินดิจิทัล 10,000 บาทโดยตรงผ่าน ‘กระเป๋าเงินดิจิทัล’ (Digital Wallet) เพื่อจับจ่ายใช้สอยสินค้าที่จำเป็นในการดำรงชีวิต
2. Digital Wallet 10,000 บาท ที่ได้รับมาสามารถใช้จ่ายในรัศมี 4 กิโลเมตร แต่ปรับเปลี่ยนได้ตามลักษณะภูมิประเทศเพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชนทุกคน
3. สามารถใช้จ่ายได้ภายใน 6 เดือน ด้วยบัตรประชาชน ผ่านแอปพลิเคชัน ไม่สามารถเบิกถอนเป็นเงินสดได้ แต่หากไม่สามารถเข้าถึงแอปพลิเคชันจะสามารถใช้จ่ายผ่านเลขบัตรประจำตัวประชาชนพร้อมโค้ดส่วนตัว
4. Digital Wallet 10,000 บาทนี้จะถูกส่งตรงถึง ‘กระเป๋าเงินดิจิทัล’ ของประชาชน ภายใต้ระบบที่ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างประโยชน์กับพี่น้องประชาชนอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย จึงไม่มีช่องว่างให้ใครฉวยโอกาสหาประโยชน์ระหว่างทาง ปิดโอกาสไม่ให้เกิดการหักหัวคิวในทุกขั้นตอน
นโยบาย Digital Wallet 10,000 บาท ของพรรคเพื่อไทย มุ่งเดินหน้านโยบายเงินดิจิทัลเต็มรูปแบบ ด้วยแนวคิดที่ทันสมัย ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก ด้วยทัศนคติเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชนและประเทศชาติ
ทั้งนี้นโยบายดังกล่าวจะเริ่มต้นอย่างเป็นทางการเมื่อไหร่นั้นต้องรอติดตามกันต่อไป