สองหนุ่มสาวขับรถติดไฟแดง โดนเก๋งพุ่งชนท้ายอย่างจัง ฝ่ายหญิงกระเด็นถูกลากไปตามทางก่อนคนขับจะถอยทับร่างชาย พลเมืองดีโพสต์เฟสเล่าเหตุการณ์ ล่าสุดทั้งสองคนยังนอน รพ.

สองหนุ่มสาว ขับรถติดไฟแดง โดนเก๋งพอร์ชพุ่งชนท้ายอย่างจัง ฝ่ายหญิงกระเด็นถูกลากไปตามทางก่อนคนขับจะถอยทับร่างชายอีกครั้ง หนุ่มพลเมืองดีโพสต์เฟสเล่าเหตุการณ์ ล่าสุดทั้งสองคนยังนอน รพ. ฝ่ายหญิงได้สติ ส่วนฝ่ายชายยังนอนในห้องไอซียู

จากกรณีพลเมืองดีรายหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ โพสต์ภาพลงในเฟซบุ๊ก และเล่าเหตุการณ์อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 24 ก.ค.67 ที่ผ่านมา เป็นอุบัติเหตุที่รถยนต์เก๋งพอร์ชสีดำพุ่งชนท้ายรถจักรยานยนต์ของหญิงและชาย วัยรุ่นสองคนที่ขับซ้อนกันมากำลังติดไฟแดง จนทั้งสองคนกระเด็นรถล้มได้รับบาดเจ็บสาหัสทั้งสองคนถูกน้ำตัวส่งโรงพยาบาล

โดยทางผู้โพสต์ระบุเล่าเหตุการณ์ว่า “อุบัติเหตุ“ เรื่องราวที่ไม่มีใครอยากให้เกิด เมื่อคืนเป็นอีกคืนที่ออกไปขับรถและพบเห็นอุบัติเหตุ แต่รอบนี้ค่อนข้างสะเทือนใจกว่าที่ผ่านๆ มา ภาพที่เห็นตรงหน้าคือรถพอร์ชสีดำที่กำลังเร่งเครื่องสุดกำลังเพื่อข้ามบางอย่างออกไป สิ่งแรกที่นึกถึงคือกันชนรถอาจจะติดใต้ท้อง สิ่งสุดท้ายที่คิดถึงคือ” คน “แต่เมื่อมองจนชัดก็ได้พบว่า สิ่งที่รถพอร์ชสีดำกำลังเหยียบและเร่งเครื่องเต็มกำลังเพื่อข้ามไปนั่นคือ ”คน“ ครับ เลยตัดสินใจจอดข้างทางลงช่วยเหลือน่าจะดีกว่า

สิ่งที่ลงรถเจอภาพตรงหน้าคือ ชายที่นอนอยู่กลางถนน ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ (น่าจะคิดว่าเสียชีวิตไปแล้ว) แต่เมื่อผมดูใกล้ๆ ท้องมีการขยับเบาๆ ใช่ครับเขายังมีชีวิต กางเกงยีนที่มีรอยไหม้ดำขาดออกเห็นขาที่มีรอยไหม้ ยิ่งทำให้คิดได้เลยว่าท่อไอเสียรถคันที่เหยียบทับไปร้อนขนาดไหน

เมื่อเหลือบมองไปอีกฝั่งถนน มีซาก จยย. ที่ถูกชนกระเด็นไปไกลอีก 1 คัน ใกล้ๆ เห็นคนนอนตรงนั้นอีก 1 คน เลยวิ่งไปดูใช่ครับ อีก 1 คน เป็นผู้หญิงนอนแน่นิ่ง พยายามเรียกอยู่สักพักน้องผู้หญิงพยายามพูดว่าช่วยด้วยหนูถูกรถชน

เมื่อหันไปมองอีกฝั่งคือชายวัยกลางคน สภาพเมาได้ที่เลยที่ถูกพลเมืองดีลากมาจากรถพอร์ชคันนั้นในท่าทีไม่ได้มีความสนใจไยดีกับคนเจ็บที่นอนอยู่เลย มีเพียงคำพูดถามมาว่า พวกคุณเกี่ยวข้องอะไรกับคนที่ผมชนรึไงเค้าไม่คิดจะถามด้วยช้ำว่าทั้งสองคนมีชีวิตอยู่หรือไม่

สุดท้ายรถโรงพยาบาลมารับ น้องผู้ชาย และน้องผู้หญิง ได้สติพอจะสื่อสารได้ก่อนขึ้นรถโรงพยาบาลจากไป ขอให้น้องทั้งสองคนหายไวๆ นะครับส่วนคนขับพอชเดาว่าอาจจะรอดไปได้ คงหวังได้แค่ให้พระเจ้าเป็นผู้ลงโทษท่านเองแล้วกัน

โดยหลังจากที่ทางด้านพลเมืองดีรายนี้ โพสต์เล่าเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นออกไป พบว่ามีผู้คนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก โดยหนึ่งในนั้นมีเพื่อนของผู้บาดเจ็บทั้งสองคนติดต่อขอสอบถามรายละเอียดข้อเท็จจริง พร้อมทั้งได้มีการขอความช่วยเหลือในการช่วยเป็นพยานในที่เกิดเหตุ อีกทั้งโพสต์ดังกล่าวยังมีการแชร์ออกไปจำนวนมาก สอบถามถึงความยุติธรรมและความรับผิดชอบของชายคนขับรถพอร์ชสีดำคู่กรณีที่ชนทั้งสองคนอีกด้วย

ขณะที่ต่อมา ทางผู้สื่อข่าวได้ติดตามเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้จนกระทั่งทราบว่า ผู้เสียหายที่ถูกรถพอร์ชสีดำพุ่งชนในวันเกิดเหตุ คือ น.ส.ออม อายุ 22 ปี นักศึกษาชั้นปี 3 ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ ส่วนฝ่ายชาย คือ นายอิฟฟาน อายุ 22 ปี ซึ่งขณะนี้ทั้งสองคนยังพักรักษาอาการบาดเจ็บอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่

โดยล่าสุดทางด้าน น.ส.ออม ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเพิ่งออกจากห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน ส่วน นายอิฟฟาน ขณะนี้อาการยังสาหัสจากการที่ถูกรถทับจนตับแตก และมีอาการบาดเจ็บอีกหลายแห่ง ยังต้องนอนพักรักษาตัวในห้องฉุกเฉิน

ผู้สื่อข่าวได้เข้าพูดคุยกับทางด้าน น.ส.ออม ผู้บาดเจ็บฝ่ายหญิง ซึ่งได้เล่าว่า ในวันเกิดเหตุ เวลาประมาณ ตี 3 ของวันที่ 24 ก.ค.67 ตนกับนายอิฟฟาน ซึ่งเป็นรุ่นน้อง ได้ขับรถจักรยานยนต์เพื่อจะไปกินข้าว หลังจากที่ได้ไปเที่ยวสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง และได้ขับรถมาตามเส้นทางจากถนนศิริมังคลาจารย์ จนกระทั่งมาถึงบริเวณสามแยกฟ้าธานี ที่ระหว่างนั้นฝั่งตนเป็นสัญญาณไฟแดง จึงจอดติดไฟแดงอยู่ แต่แล้วจู่ๆ ก็มีรถยนต์เก๋งพุ่งมาชนด้านท้ายอย่างเร็วและรุนแรง โดยตอนนั้นตนจำอะไรไม่ได้ จนกระทั่งมาเห็นภาพในคลิปวิดีโอที่ได้มาจากพลเมืองดี พบว่า ตอนโดนรถเก๋งชนร่างของตนกระเด็นแล้วตกลงกลางถนน ส่วนร่างของ นายอิฟฟาน ก็กระเด็นนอนกลางถนนเช่นกัน จากนั้นรถยนต์เก๋งที่ชนแทนที่จะจอดลงมาดูกลับขับเร่งเครื่องลากร่างของตนไปตามถนน จนกระทั่งสุดทางซึ่งเป็นฟุตบาท คนขับรถเก๋งได้ถอยรถแล้วทับร่างของ นายอิฟฟาน ที่ขณะนั้นนอนนิ่งอยู่กลางถนน แล้วรถเก๋งก็ขับเดินหน้าเหมือนจะพยายามจะขับไปต่อ ทั้งๆ ที่ร่างของ นายอิฟฟาน ยังติดอยู่ใต้รถ ก่อนล้อหลังจะขับทับร่างอีกครั้ง แล้วรถก็ขับไปจอดข้างห่างไปจากจุดชนประมาณ 30 เมตร โดยตอนนั้นมีพลเมืองดีได้วิ่งไปเปิดประตูรถของคนที่ขับชน แล้วคนชนก็เดินลงมา เหมือนมีอาการมึนเมาลงมาดูก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยและทีมแพทย์จะช่วยเหลือนำตนและนายอิฟฟานส่งโรงพยาบาล

โดยหลังจากตนได้สติทราบว่านอนอยู่ในห้องฉุกเฉิน รวมถึงนายอิฟฟาน ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน แต่ตนบาดเจ็บน้อยกว่า ตอนนี้จึงถูกส่งรักษาตัวต่อที่หอผู้ป่วยวิกฤติศัลยกรรมอุบัติเหตุ แต่ในส่วนของนายอิฟฟาน ตอนนี้ยังคงรักษาตัวอยู่ที่ห้องฉุกเฉิน เพราะบาดแผลฉกรรจ์และมีอาการบาดเจ็บภายในหลายจุดจากการถูกชนและถูกรถทับซ้ำ

ขณะที่ล่าสุดช่วงเที่ยงวันนี้ (27 ก.ค.67) ทางด้านฝ่ายชายคู่กรณีที่ขับรถชนได้เดินทางเข้ามาเยี่ยมตนและ นายอิฟฟาน เป็นครั้งแรกหลังเกิดเหตุ โดยได้พูดคุยกับตน และขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว พร้อมทั้งบอกว่าจะรับผิดชอบในทุกเรื่อง โดยขอให้ตนกับ นายอิฟฟาน รักษาตัวจนหายดีแล้วค่อยมาเจรจาในเรื่องของคดี

น.ส.ออม ผู้บาดเจ็บ บอกอีกว่า สิ่งที่ตนติดใจคือเรื่องในวันเกิดเหตุเพราะหลังจากที่ชายคู่กรณีขับรถชนทั้งสองแล้ว ทำไมถึงไม่หยุดรถ แต่กลับขับชนแล้วลากร่างของตนไปตามถนน อีกทั้งยังขับรถถอยมาทับร่างของ นายอิฟฟาน ที่นอนอยู่กลางถนน นอกจากนี้ยังพบว่าอีกฝ่ายมีอาการมึนเมา ขับรถอย่างประมาท และอยากให้ทางคู่กรณีแสดงความรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นให้มากกว่านี้ด้วย

ขณะที่ทางด้าน น.ส.เอิร์น อายุ 25 ปี พี่สาวของ น.ส.ออม ให้สัมภาษณ์กับทางผู้สื่อข่าวว่า คืนเกิดเหตุทราบว่าน้องกลับมาจากเที่ยวสถานบันเทิงแถวนิมมาน แล้วกำลังจะมากินข้าวต่อแถวสันติธรรม แต่ขณะขับรถจอดติดไฟแดงก็ถูกรถยนต์ขับชนท้ายอย่างจัง และจากการตรวจสอบกับทางคู่กรณี ก็บอกว่า ในวันนั้นไปเลี้ยงฉลองวันเกิด แล้วมีอาการเมามากตอนขับรถ ส่วนอาการของน้องสาวตอนนี้ ก็ดีขึ้นแต่มีกระดูกหักหลายแห่ง ทั้งบริเวณด้านหลัง ลามมาถึงหัวไหล่ รวมไปถึงบริเวณสะโพก และขา และมีบาดแผลถลอกฟกช้ำบริเวณร่างกายและใบหน้า ซึ่งหลังเกิดอุบัติเหตุก็ทำให้น้องต้องพักการเรียนไปเลยทั้งเทอม เนื่องจากไม่สามารถไปเรียนได้แล้วตามปกติ เพราะยังไม่ได้รับการผ่าตัด และอาจจะต้องใช้เวลาในการพักรักษาตัวอีกนาน

ขณะที่ล่าสุดช่วงเที่ยงวันนี้ ทางด้านฝั่งของคู่กรณีที่ขับรถชนได้เข้ามาเยี่ยมน้อง และพูดคุยกับทางครอบครัวผู้เสียหายแล้ว โดยเบื้องต้น ทางฝั่งนั้นยอมรับผิดทุกอย่าง และยินยอมให้ดำเนินการไปตามขั้นตอน รวมไปถึงรับผิดชอบในเรื่องของความเสียหาย และการรักษา แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ก็รู้สึกสะเทือนใจ และตกใจมากเพราะตอนนี้น้องได้รับบาดเจ็บมาก ประกอบกับน้องก็ทำงานหาเงินและเรียนไปด้วย แต่พอมาเกิดประสบอุบัติแบบนี้ก็ไม่รู้ว่าจะกลับมาเป็นปกติได้หรือไม่

ต่อมาในวันเดียวกันนี้ ทางด้าน น.ส.หญิง อายุ 24 ปี เพื่อนของ น.ส.ออม ได้พาผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบยังบริเวณสามแยกฟ้าธานี ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ พร้อมทั้งเล่าเหตุการณ์ โดยระบุเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ในคืนวันเกิดเหตุ นายอิฟฟาน และ น.ส.ออม ได้จอดรถติดไฟแดงยังบริเวณดังกล่าว ซึ่งเป็นทางที่จะมุ่งหน้าเลี้ยวขวาไปยังสันติธรรม จู่ๆ ก็มีรถยนต์เก๋งพอร์ชสีดำ ขับมาด้วยความเร็วสูงพุ่งชนเข้าท้ายรถอย่างจัง จนร่างของเพื่อนทั้งสองคนกระเด็นตกกลางถนน โดยฝ่าย นายอิฟฟาน ผู้ชายกระเด็นไปด้านข้างรถเก๋ง จากนั้นรถเก๋งก็ขับถอยมานิดหน่อย แล้วเดินหน้าชนทับ น.ส.ออม แล้วจากนั้นเป็นจุดที่กล้องถ่ายไม่ถึง แต่สักพักคนขับก็ขับรถถอยกลับมาแล้วมาทับร่างของ นายอิฟฟาน ที่นอนกลางถนน โดยตนก็ตกใจกับเหตุการณ์นี้ จึงอยากให้มีการตรวจสอบและดำเนินการกับฝั่งคนขับรถเก๋งพอร์ชให้ถึงที่สุดด้วย