เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 2 ก.ย.67 นายกรวิทย์ ยังอั้น ตัวแทนกลุ่มผู้เสียหายจำนวนหลายรายที่ถูก ผอ.คนหนึ่ง อ้างว่าเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ว่ามีที่ดินอยู่แถวถนนมูลเมือง ซอย 7 ต. ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งประกาศให้เช่ามีคนเข้ามาขอทำสัญญาทั้งรายเดือนรายปี ซึ่งนับจากเม็ดเงินรวมหลายล้านบาท
กระผมในนามผู้เสียหาย ขอร้องเรียนกรณีดังนี้ ปรากฏว่ามีผู้เช่าที่ดินดังกล่าวกลับกลายเป็นว่าเป็นที่วัดร้างจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติแปลงหนึ่งที่ถูก ผอ.แบ่งหลอกให้คนอื่นเช่า และยังมีคนอื่นรับช่วงให้คนอื่นเช่าต่ออีกทอดหนึ่งด้วย
ต่อมาผู้เสียหายได้ทราบความจริงที่หลังว่าที่ดิน ไม่ใช่ของผู้ให้เช่าจึงทำให้เกิดความเสียหายหลาบล้านบาทประกอบกับที่ดินวัดร้างตรงนี้จากการสอบถามผู้รู้เดิมชื่อวัดเตาปูนนั่นนั่นเป็นแหล่งโบราณสถานอายุกว่า720ปีในอที่ดินตรงนี้คือที่ดินผืนเดียวกับวัดล่ามช้างแลเทศบาลตัดถนนผ่านจึงทำให้ที่ดินขาดออกจากกันและพัฒนามาตามยุคสมัยจนสุดท้ายพบว่ามีการชายสิทธิการเช่าไปหลายครั้งจนสุดท้ายมีการพยายามจะสร้างโรงแรมในพื้นที่วัดจนเกิดการ คัดค้านกับทางองค์กรชาวพุทธชาวบ้านและประชาชนคนเชียงใหม่ดังกล่าวในสื่อต่างๆอยู่ระยะหนึ่งโครงการถร้างโรงแรงแรมก็หยุดไปและ ขายสิทธิการเช่าต่อให้เอกชนบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายหนึ่งพยายามจะสร้างโรงแรมอีกครั้งก็ได้รับการต่อต้านจนในที่สุดก็มีการนำที่ดินขายสิทธิโอนการเช่ามาถึงผู้เช่าในรายปัจจุบันก็คือคนของบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายเดิมได้จดแจ้งในสัญญา เพื่อทำโรงเรียนวิถีวัฒนธรรมแต่ไม่ได้ทำกลับเอาที่ดินออกเร่ประกาศผ่านสื่อต่างๆและนำออกให้กลุ่ม ทั้งเช่าทำโรงแรมที่ทำแล้วเปิดกิจการแล้วทำร้านอาหารขายของชำร่วยและอื่นๆอีกหลายรายการกลุ่มผู้เสียผู้เสียหายแจ้งความเดือดร้อนให้กับสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ทราบแล้วแต่ไม่ได้รับการดำเนินการสำนักพุทธนิ่งเฉย อีกประการต่อมาคือพื้นที่ตรงนี้มีความสำคัญกับชุมชุมชนและเกี่ยวเนื่องกับวัดล่ามช้างวัดที่อยู่ติดกับที่ดินผืนดังกล่าวมายาวนานปัจจุบันทราบว่ามีกลุ่มทุนพยายามที่จะนำเอาที่ดินตรงนี้ทำเป็นโรงแรมอีกครั้งโดยใส่ผู้เช่าช่วงออก โดยผู้เช่าแต่ละรายนั้นลงทุนนับล้านบาทถึงหลายล้านบาท ที่ดินนี้เคยมีกรณีพิพิพาทกับชุมชนมาแล้วจนเป็นข่าวใหญ่โตหน่วยงานที่รับผิดชอบต้องระวังใส่ใจให้มากกว่านี้ กลับไม่ใส่ใจอะไรเลย
ทางด้านนางสาวนฤมล ขอสงวนนามสกุล อายุ 53 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งผู้เสียหาย ที่โดนผอ .โรงเรียนแห่งหนึ่ง หลอกให้เช่า ว่าเป็นพื้นที่ ให้เช่าเป็นของตัวเอง จนกระทั่ง ผู้เสียหาย หลงเชื่อ จึงทำสัญญาเช่า เป็นเงินทั้งสิ้น 150,000 บาท หลังจากนั้น ได้ถูก ผอ. คนดังกล่าว ขับไล่ ให้ออกจากพื้นที่ โดยทำตัวเป็นมาเฟีย อ้างรู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ ให้ ผู้เช่า ยกเลิกสัญญา และให้ขนของออกไป ภายใน 7 วัน ซึ่งทางผู้เสียหาย ก็งงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สุดท้าย จึงได้ตรวจสอบ ว่าที่ดินดังกล่าว เป็นของใครกันแน่ จนกระทั่งทราบว่า ที่ดินแห่งนี้ เป็นของสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยมีผอ. คนดังกล่าว จะทำความผิด ไปหลอกให้ประชาชนทั่วไป เช่า จึงมั่นใจ ว่าโดนหลอก แน่นอน จึงได้เดินทางเข้าพบ พันตำรวจโท ทนงศักดิ์ จันทร์เจือแก้ว พนักงานสอบสวน สภ.เมือง เชียงใหม่ เพื่อให้ดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกงประชาชน กับผอ. คนดังกล่าว หากเรื่องไม่ คืบหน้า จะร้องเรียน ไปยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาดำเนินคดีต่อไป