เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 67 ที่อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาวะ (สสส.) โครงการครอบครัวปลอดบุหรี่/บุหรี่ไฟฟ้า สมาคมเครือข่ายพัฒนาชุมชนแห่งการเรียนรู้(สพร.) และศูนย์ความรู้นโยบายเด็กและครอบครัว (คิด for คิดส์) จัดงานแถลงผลการสำรวจรับฟังความคิดเห็นหัวข้อ “พ่อ…พลังแห่งการเปลี่ยนแปลงสร้างครอบครัวปลอดบุหรี่” ภายใต้โครงการครอบครัวปลอดบุหรี่/บุหรี่ไฟฟ้า เพื่อสร้างการรับรู้ในเรื่องบทบาทของพ่อที่มีความสำคัญกับพฤติกรรม ลด ละ เลิกการสูบบุหรี่ภายในครอบครัว
นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า ปัญหาการสูบบุหรี่ ถือเป็นปัญหาที่คงอยู่ในสังคมไทยมาอย่างยาวนาน ภัยจากบุหรี่ไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้นทุกปีและมีแนวโน้มที่นักสูบจะมีอายุน้อยลงเรื่อยๆ ส่วนหนึ่งมีจุดเริ่มจากคนในครอบครัวโดยเฉพาะผู้ที่เป็นพ่อ มีส่วนสำคัญส่งผลต่อเด็ก ที่อาจเกิดพฤติกรรมเลียนแบบ นำไปสู่การกลายเป็นนักสูบหน้าใหม่ได้ นอกจากนี้ การสูบบุหรี่จะทำให้เกิดควันมือสอง มือสาม ที่ส่งผลโดยตรงกับการเกิดปัญหาสุขภาพ เสี่ยงต่อการเกิดโรคระบบทางเดินหายใจ เช่น หอบหืด และการติดเชื้อในหู และยับยั้งพัฒนาการของเด็กและเยาวชน ดังนั้น สสส. จึงได้ให้ความสำคัญกับการป้องกันการสูบบุหรี่ในครอบครัวมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อปกป้องสุขภาพของเด็ก เยาวชนตั้งแต่ต้นทาง
“บุหรี่ไฟฟ้ากำลังสร้างปัญหาให้กับสังคมไทย นอกจากมีอันตรายไม่ต่างจากบุหรี่มวนแล้ว ยังมีโลหะหนักที่เป็นสารก่อมะเร็ง และสารปรุงแต่งกลิ่นรสอีกกว่า 16,000 ชนิด ที่ทำให้เซลล์เยื่อบุหลอดลม และเส้นเลือดฝอยอักเสบ เพิ่มความเสี่ยงเสี่ยงโรคปอด หลอดเลือด หัวใจให้กับผู้ที่ได้รับควัน ที่สำคัญคือเกินกว่าครึ่งของผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้าในไทย เป็นเยาวชน อายุ 15-24 ปี มีข้อมูลพบว่า เด็กและเยาวชนที่ไม่เคยสูบบุหรี่มาก่อนถ้าเริ่มสูบบุหรี่ไฟฟ้าจะมีแนวโน้มสูบบุหรี่มวนเพิ่มขึ้น 5 เท่า บุหรี่ไฟฟ้าจึงถือเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่มีผลกระทบต่อสุขภาพของเด็กและเยาวชนโดยตรง” ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าว
ผศ.ดร.วศิน ศิวสฤษดิ์ อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดเผยผลการสำรวจพฤติกรรม ความต้องการ ความคาดหวัง “พ่อ” ที่ส่งผลต่อการเลี้ยงดูบุตร หลานและความสัมพันธ์ในครอบครัวจากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างพ่อ และผู้ชายที่มีบทบาทในการรับผิดชอบเลี้ยงดูเด็กปฐมวัยอายุระหว่าง 0-6 ปี อาทิ ปู่ ตา ลุง น้า อา พี่ จากกลุ่มตัวอย่างพ่อ 1,159 คน ใน 5 ภูมิภาคทั่วประเทศ พบพ่อที่สูบบุหรี่ 461 คน คิดเป็น 39.8% กลุ่มอายุที่สูบบุหรี่มากที่สุดคือ 21-30 ปี รองลงมาคือ 31-40 ปี แบ่งเป็นบุหรี่มวน 356 คน คิดเป็น 77.22% บุหรี่ไฟฟ้า 57 คน คิดเป็น 12.36% และสูบทั้ง 2 ชนิด 48 คน คิดเป็น 10.42% โดยภาคใต้สูบบุหรี่มวนสูง รองลงมาคือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ กรุงเทพฯและปริมณฑล และภาคตะวันออก ขณะที่ภาคที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าสูงที่สุดคือ ภาคตะวันออก รองลงมาคือ กรุงเทพฯและปริมณฑล ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และภาคใต้