การออกรถดาวน์น้อยผ่อนน้อยเป็นตัวเลือกยอดนิยมของคนที่อยากมีรถเป็นของตัวเองโดยไม่ต้องใช้เงินก้อนใหญ่ แต่สำหรับมือใหม่ที่ยังไม่เคยซื้อรถมาก่อน อาจสงสัยว่าการเลือกดาวน์ต่ำ ผ่อนสบาย มีข้อดี-ข้อเสียอะไรบ้าง และเหมาะกับตัวเองจริงหรือไม่? บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจและตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ถ้าพร้อมแล้วมาดูกันเลย
ออกรถดาวน์น้อยผ่อนน้อยคืออะไร?
โดยปกติแล้ว การซื้อรถยนต์ผ่านสินเชื่อไฟแนนซ์ต้องวางเงินดาวน์ก่อน ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 10-25% ของราคารถ ส่วนที่เหลือจะเป็นเงินกู้ที่ต้องผ่อนชำระรายเดือน
“ดาวน์น้อย” หมายถึง วางเงินดาวน์ต่ำ เช่น 5-10%
“ผ่อนน้อย” หมายถึง การเลือกผ่อนชำระเป็นระยะเวลานานขึ้น เช่น 72-84 เดือน
แม้ว่าจะช่วยให้มีรถได้ง่ายขึ้น แต่ก็มาพร้อมกับข้อควรพิจารณาที่ต้องรู้
ข้อดีของการออกรถดาวน์น้อยผ่อนน้อย
1. ใช้เงินก้อนแรกน้อย เหมาะสำหรับคนงบจำกัด
หากคุณมีเงินเก็บไม่มาก การออกรถแบบ ดาวน์น้อย ช่วยให้คุณเป็นเจ้าของรถได้โดยไม่ต้องใช้เงินก้อนโต เช่น รถราคา 600,000 บาท หากดาวน์ 10% เท่ากับต้องจ่ายเพียง 60,000 บาทเท่านั้น
เหมาะกับใคร?
✔️ พนักงานประจำที่มีรายได้มั่นคง
✔️ ผู้ที่ต้องการรถใช้งานเร่งด่วน แต่มีงบประมาณจำกัด
2. ค่างวดต่อเดือนน้อยลง บริหารเงินง่ายขึ้น
หากเลือกโปรแกรม ผ่อนน้อย ด้วยการยืดระยะเวลาผ่อนให้นานขึ้น เช่น จาก 60 เดือนเป็น 84 เดือน ค่างวดต่อเดือนจะลดลง ทำให้สามารถจัดการค่าใช้จ่ายอื่นๆ ได้ง่ายขึ้น
ตัวอย่าง:
- ผ่อน 60 เดือน อาจต้องจ่ายเดือนละ 10,000 บาท
- ผ่อน 84 เดือน ลดเหลือเดือนละ 7,500 บาท
เหมาะกับใคร?
✔️ ผู้ที่มีรายได้ประจำและมีค่าใช้จ่ายต่อเดือนสูง
✔️ คนที่ต้องการเงินเหลือใช้สำหรับค่าใช้จ่ายอื่นๆ
3. มีโอกาสนำเงินไปลงทุนอย่างอื่นได้
เมื่อจ่ายเงินดาวน์น้อยและผ่อนในอัตราที่ไม่หนักมาก คุณสามารถนำเงินที่เหลือไปลงทุนหรือใช้จ่ายด้านอื่น เช่น ซื้อบ้าน ลงทุนทำธุรกิจ หรือใช้เป็นเงินสำรองฉุกเฉิน
เหมาะกับใคร?
✔️ คนที่ต้องการกระแสเงินสดไว้หมุนเวียน
✔️ นักลงทุนที่ต้องการบริหารสภาพคล่อง
ข้อเสียของการออกรถดาวน์น้อยผ่อนน้อย
1. ดอกเบี้ยสูงขึ้น เสียเงินรวมมากกว่า
ข้อเสียหลักของการดาวน์น้อยคือ ดอกเบี้ยจะสูงขึ้น เพราะไฟแนนซ์มองว่าคุณมีความเสี่ยงสูง ดอกเบี้ยรวมที่ต้องจ่ายอาจสูงกว่าการดาวน์เยอะๆ และเลือกผ่อนระยะสั้น
ตัวอย่าง:
เงินดาวน์ | ระยะเวลาผ่อน | ดอกเบี้ยรวมโดยประมาณ |
10% | 84 เดือน | 120,000 บาท |
25% | 60 เดือน | 80,000 บาท |
ใครควรระวัง?
- คนที่ต้องการจ่ายดอกเบี้ยให้น้อยที่สุด
ผู้ที่ไม่ต้องการเป็นหนี้ระยะยาว
2. ภาระหนี้ยาวนาน เสี่ยงต่อการผ่อนไม่ไหว
การผ่อนระยะยาว เช่น 6-7 ปี อาจเป็นภาระที่นานเกินไป เพราะในอนาคตคุณอาจมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ เพิ่มขึ้น เช่น ค่าผ่อนบ้าน ค่าเลี้ยงดูครอบครัว หรือค่าการศึกษา
ใครควรระวัง?
- คนที่ไม่แน่ใจว่ารายได้จะมั่นคงไปตลอด
- คนที่อาจมีแผนซื้อบ้านหรือสินทรัพย์ใหญ่อื่นๆ
3. อาจเสียโอกาสในการขอสินเชื่ออื่นๆ
เมื่อคุณมีภาระผ่อนรถอยู่เป็นเวลานาน ยอดหนี้ของคุณจะถูกนำไปพิจารณาในการขอสินเชื่ออื่นๆ เช่น กู้ซื้อบ้าน กู้ทำธุรกิจ ซึ่งอาจส่งผลให้ได้รับอนุมัติวงเงินต่ำลง
ใครควรระวัง?
- คนที่มีแผนขอสินเชื่อเพื่อซื้อบ้านหรือทำธุรกิจในอนาคต
เลือกออกรถดาวน์น้อยผ่อนน้อยให้คุ้มค่า ต้องทำอย่างไร?
- เพิ่มเงินดาวน์ให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ – แม้ว่าโปรแกรมดาวน์น้อยจะดึงดูดใจ แต่หากสามารถเพิ่มเงินดาวน์เป็น 15-20% จะช่วยลดดอกเบี้ยและลดภาระการผ่อนในระยะยาว
- เลือกไฟแนนซ์ที่มีเงื่อนไขดอกเบี้ยต่ำ – เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยจากหลายสถาบันการเงิน อย่าเลือกไฟแนนซ์ที่คิดดอกเบี้ยสูงเกินไป
- เลือกระยะเวลาผ่อนที่เหมาะสม – หลีกเลี่ยงการผ่อนเกิน 6 ปี (72 เดือน) เพราะจะทำให้เสียดอกเบี้ยมากเกินไป
- ตรวจสอบรายได้และค่าใช้จ่ายของตนเองก่อนซื้อ – อย่าให้ภาระผ่อนรถเกิน 30-40% ของรายได้ เพื่อให้สามารถบริหารการเงินได้ดี
สรุปแล้วออกรถดาวน์น้อยผ่อนน้อยเหมาะกับใคร?
เหมาะกับ:
- คนที่ต้องการรถใช้งานด่วน แต่มีงบจำกัด
- คนที่มีรายได้มั่นคงและสามารถบริหารเงินได้
- ผู้ที่ต้องการเงินสดเหลือไว้สำหรับใช้จ่ายหรือการลงทุน
ไม่เหมาะกับ:
- คนที่ไม่ต้องการเสียดอกเบี้ยสูง
- คนที่มีภาระหนี้สินอื่นๆ เยอะ
- ผู้ที่วางแผนขอสินเชื่อเพื่อซื้อบ้านหรือทรัพย์สินใหญ่ในอนาคต
เรียกได้ว่าการออกรถดาวน์น้อยผ่อนน้อยอาจเป็นทางเลือกที่ดีหากคุณวางแผนทางการเงินอย่างรอบคอบ คำนึงถึงทั้งข้อดีและข้อเสียก่อนตัดสินใจ เพื่อให้การซื้อรถครั้งนี้ไม่กลายเป็นภาระในอนาคตนั่นเอง