17 มี.ค. 68 – นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า จากผลการตอบรับที่ดีจากประชาชนผู้ใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท) ในการเข้ารับ“บริการการแพทย์ทางไกลในลักษณะผู้ป่วยนอกทั่วไป” (OP Telemedicine) ที่ครอบคลุมรักษา 42 กลุ่มโรคและอาการ” ซึ่งได้นำร่องในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล 5 จังหวัด ได้แก่ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร และนครปฐม โดยข้อมูลในระบบของ สปสช. ปีงบประมาณ 2566 มีผู้รับบริการ 33,578 ครั้ง ปีงบประมาณ 2567 จำนวน 79,300 ครั้ง และปีงบประมาณ 2568 (31 ม.ค. 68) จำนวน 31,499 ครั้ง และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ด้วยความสะดวกและรวดเร็วในการเข้ารับบริการผ่านแอบพลิเคชันสุขภาพ นอกจากพบแพทย์ผ่านระบบออนไลน์ในกรณีที่ผลการตรวจคัดกรองต้องได้รับการวินิจฉัยหรือคำแนะนำจากแพทย์แล้ว ยังมีบริการจัดส่งยาและเวชภัณฑ์ให้ผู้ป่วยถึงบ้าน โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งไม่ต้องเดินทางและไม่ต้องรอคิวบริการที่สถานพยาบาล
ทั้งนี้จากผลการนำร่องข้างต้นนี้ ประกอบกับมีเสียงสะท้อนจากประชาชนผู้ใช้สิทธิบัตรทองในจังหวัดต่างๆ ที่ต้องการจะรับบริการการแพทย์ทางไกลในลักษณะผู้ป่วยนอกทั่วไปฯ ผ่านแอบพลิคชันสุขภาพด้วยเช่นกัน ดังนั้นที่ผ่านมา สปสช. จึงได้หารือกับผู้ให้บริการแอบพลิคชันที่ร่วมกับ สปสช. ในการขยายการให้บริการการแพทย์ทางไกลฯ นี้ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ซึ่งผู้ให้บริการทั้ง 3 แอบพลิแคชันสุขภาพ ต่างมีความพร้อมของระบบและเริ่มให้บริการแล้ว นอกจากเป็นการต่อยอดการให้บริการการแพทย์ทางไกลฯ ในระบบบัตรทองเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงการรักษาพยาบาลเบื้องต้นผ่านแอบพลิเคชันสุขภาพได้อย่างทั่วถึง ทุกที่ทุกแห่ง อย่างมีคุณภาพและมาตรฐานทางการแพทย์ ภายใต้ “30 บาทรักษาทุกที่แล้ว” ยังลดความแออัดผู้ป่วยในโรงพยาบาลได้ รวมถึงภาระงานบุคลากรทางการแพทย์ได้
นพ.จเด็จ กล่าวว่า สำหรับ 3 แอบพลิเคชันสุขภาพดังกล่าวนี้ ประกอบด้วย
1.แอปพลิเคชัน Saluber MD (ซาลูเบอร์ เอ็ม ดี) ดำเนินการโดยสุขสบายคลินิกเวชกรรม
2.แอปพลิเคชัน Clicknic (คลิกนิก) ดำเนินการโดยคลิกนิกเฮลท์คลินิกเวชกรรม
3. แอปพลิเคชัน Mordee (หมอดี) ดำเนินการโดยชีวีบริรักษ์ คลินิกเวชกรรม โดยต่างยินดีที่จะให้บริการผู้ใช้สิทธิบัตรทอง
“วันนี้ สปสช. มีข่าวดีสำหรับประชาชนผู้ใช้สิทธิบัตรทองทั่วประเทศ ไม่ว่าท่านจะอยู่พื้นที่ไหน หรือในจังหวัดใด จะอยู่ใกล้หรืออยู่ไกล หากมีอาการเจ็บป่วยที่อยู่ในกลุ่ม 42 กลุ่มโรคและอาการ สามารถใช้สิทธิบัตรทองของท่านเข้ารับการรักษาพยาบาลผ่านระบบการแพทย์ทางไกลผ่านทาง 3 แอปพลิเคชันที่ร่วมกับ สปสช. ได้แล้ว โดยเลือกรับบริการกับแอปใดแอปหนึ่ง ซึ่งขั้นตอนรับบริการก็ง่าย ไม่ยุ่งยาก และที่สำคัญคือไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ”
นพ.จเด็จ กล่าวต่อว่า บริการการแพทย์ทางไกลฯ ผ่านแอปพลิเคชันสุขภาพในระบบบัตรทองฯ นี้ ย้อนกลับไปได้เริ่มต้นขึ้นในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่มีผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยโควิด-19 จำนวนมาก กระทั่งสถานพยาบาลและโรงพยาบาลต่างๆ ไม่สามารถรองรับให้การดูแลผู้ป่วยได้ ทาง สปสช. จึงได้นำบริการนี้มาร่วมดูแลประชาชนที่ติดเชื้อโควิด-19 แต่มีอาการไม่รุนแรงให้เข้าถึงการรักษา ประกอบกับด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีการสื่อสารและระบบขนส่งที่รวดเร็วอย่างก้าวกระโดด ทำให้การแพทย์ทางไกลฯ กลายเป็นระบบบริการที่สอดคล้องกับวิถีใหม่ของประชาชนที่มีการใช้สมาร์โฟน ทำให้ สปสช. ไม่เพียงแต่ต่อเนื่องการให้บริการสุขภาพช่องทางนี้กับประชาชน และยังขยายเพิ่มเติมเพื่อให้ประชาชนไทยทั่วประเทศได้เข้าถึงบริการ
ทั้งนี้ขั้นตอนการรับบริการการแพทย์ทางไกลฯ ผ่านแอบพลิเคชันสุขภาพ ดังนี้
1.แอปพลิเคชัน Saluber MD : ผู้มีสิทธิบัตรทองสามารถปรึกษาแพทย์ผ่านวิดิโอคอลทางไลน์และรับยาโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพียงแอดไลน์ @smdthailand แล้วทำตามขั้นตอนในเมนู
2.แอปพลิเคชัน Clicknic : แอดไลน์ ไอดี @clicknic แจ้งชื่อ นามสกุล เพื่อเช็กสิทธิบัตรทอง หลังจากนั้นดาวน์โหลดแอปฯ Clicknic http://onelink.to/w5vub9 กดที่แบนเนอร์ สำหรับ 42 กลุ่มโรคทั่วไป (สปสช.) ทำตามขั้นตอน พบหมอเพื่อดูอาการ และรอรับยาที่บ้าน
3.แอปพลิเคชัน Mordee ลงทะเบียนที่ https://form.typeform.com/to/qKY8gV