ใช้บริการรับพิมพ์ป้ายห้อยสินค้ายังไงให้สีไม่เพี้ยน?

5

สำหรับแบรนด์ที่ใส่ใจในรายละเอียด “ป้ายห้อยสินค้า” หรือ Hang Tag ไม่ได้เป็นเพียงแค่ป้ายบอกราคา แต่ยังเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ส่งต่ออัตลักษณ์แบรนด์ผ่านดีไซน์ สี และวัสดุได้อย่างชัดเจน การเลือกใช้บริการรับพิมพ์ป้ายห้อยสินค้าจึงต้องไม่ใช่แค่ดูราคาถูกหรือความเร็วในการผลิต แต่ยังต้องให้ความสำคัญกับ “ความตรงของสี” หรือที่เราในวงการเรียกว่า Color Accuracy ด้วย เพราะหากสีผิดเพี้ยนไปเพียงเล็กน้อย ก็อาจส่งผลต่อความรู้สึกของลูกค้าและภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้โดยไม่รู้ตัว

บทความนี้จึงจะพาไปดูว่า ถ้าคุณอยากใช้บริการรับพิมพ์ป้ายห้อยสินค้าให้ “สีตรงเป๊ะ” ควรเริ่มต้นจากอะไร และต้องดูรายละเอียดตรงไหนบ้าง

1. เลือกโรงพิมพ์ที่ใช้ระบบสีมาตรฐาน เช่น Pantone หรือ CMYK แม่นยำ

หากคุณมี Brand Color ที่ต้องเป๊ะทุกเฉด เช่น สีประจำแบรนด์ในระบบ Pantone Solid Coated 186 C หรือโทน CMYK ที่เฉพาะเจาะจง การเลือกโรงพิมพ์ที่เข้าใจระบบสี และมีเครื่องพิมพ์ที่ตั้งค่าสีได้อย่างแม่นยำเป็นสิ่งสำคัญมาก อย่าลังใจที่จะถามโรงพิมพ์ว่าเครื่องพิมพ์ของเขาใช้ระบบ CMYK หรือ RGB หรือสามารถพิมพ์ตรงตามโค้ด Pantone ได้หรือไม่ โดยเฉพาะถ้าเป็น Digital Print รุ่นใหม่ จะสามารถปรับค่าสีและให้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกับ Pantone ได้มากขึ้น

2. อย่ามองข้าม “ชนิดกระดาษ” เพราะกระดาษมีผลต่อการแสดงสี

กระดาษแต่ละประเภทมีความสามารถในการดูดซึมหมึกและสะท้อนแสงต่างกัน เช่น
กระดาษอาร์ตการ์ดเคลือบเงา : สีจะสด คม และเงางาม
กระดาษอาร์ตการ์ดเคลือบด้าน : สีจะซอฟต์ลงเล็กน้อย แต่อ่านง่าย
กระดาษคราฟต์สีน้ำตาล : ทำให้สีเพี้ยนจากต้นฉบับแน่นอน โดยเฉพาะสีอ่อน
กระดาษรีไซเคิลหรือกระดาษฟอกขาวน้อย : จะทำให้สีดูหม่นลง

หากคุณออกแบบโดยดูจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่แสดงพื้นหลังเป็นสีขาวบริสุทธิ์ แล้วเลือกพิมพ์บนกระดาษคราฟต์หรือรีไซเคิล ก็มีโอกาสสูงที่สีจะผิดไปจากที่ตั้งใจไว้ แนะนำให้แจ้งโรงพิมพ์เพื่อปรับสีงาน Art Work ให้เหมาะสมกับชนิดกระดาษที่เลือกใช้

3. ตรวจปรู๊ฟก่อนพิมพ์จริงเสมอ

การขอตัวอย่างปรู๊ฟ (Proof) ไม่ว่าจะเป็น Digital Proof หรือ Wet Proof คือวิธีที่ดีที่สุดในการตรวจสอบว่าสีที่ได้ตรงตามความต้องการหรือไม่เมื่อใช้บริการรับพิมพ์ป้ายห้อยสินค้า

Digital Proof : เป็นการพิมพ์ตัวอย่างบนกระดาษที่ใกล้เคียงกับของจริงด้วยเครื่องพิมพ์คุณภาพสูง ใช้เวลาไม่นาน ราคาถูก
Wet Proof : เป็นการพิมพ์จริงบนเครื่องเดียวกับที่ใช้ผลิตทั้งหมด สีจึงใกล้เคียงของจริงที่สุด แต่ใช้เวลานานและมีต้นทุนสูง

หากคุณใช้บริการรับพิมพ์ป้ายห้อยสินค้าในจำนวนมาก หรือมีดีไซน์เฉพาะตัว การขอ Wet Proof คุ้มค่ากับการลงทุนเพื่อป้องกันความผิดพลาดในล็อตใหญ่

4. เทคนิคเคลือบและลูกเล่นตกแต่งก็มีผลต่อสี

อย่าลืมว่าหากคุณเลือกเคลือบผิว เช่น เคลือบด้าน (Matt Laminate) หรือ เคลือบเงา (Glossy Laminate) สีที่เห็นก็จะเปลี่ยนไปเล็กน้อย เช่น

เคลือบด้าน ทำให้สีดู Soft และลดความเงา
เคลือบเงา ทำให้สีดูสดขึ้นแต่สะท้อนแสง
Spot UV หรือฟอยล์ อาจทำให้บางส่วนของสีเปลี่ยนไปเล็กน้อยจากการสะท้อน

แนะนำให้พิจารณาเรื่องเทคนิคเคลือบร่วมกับโทนสีของงานด้วย เพื่อไม่ให้เกิดความเพี้ยนที่ไม่ได้คาดคิด

5. สีไม่เพี้ยน เริ่มจากการสื่อสารที่ชัดเจน

สุดท้ายแล้ว การใช้บริการรับพิมพ์ป้ายห้อยสินค้าไม่ได้ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีอย่างเดียว แต่ต้องเริ่มจากการสื่อสารที่ดีระหว่างนักออกแบบกับโรงพิมพ์ ระบุโค้ดสีให้ชัดเจน ส่งไฟล์ที่ถูกต้อง (เช่น .ai หรือ .pdf พร้อม Outline Font) เลือกกระดาษและเทคนิคพิมพ์ที่เหมาะสม รวมถึงอย่าลืมขอตัวอย่างปรู๊ฟก่อนผลิตจริงทุกครั้ง