ตร.ภาค 5 รวบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกขอรหัส OTP เหยื่อ ก่อนจะนำไปถอนเงิน ผู้เสียหาย 34 ราย มูลค่าเงินรวมเกือบสองล้านบาท
ตำรวจภูธรภาค 5 ได้รับการร้องทุกข์จากประชาชนว่าถูกคนร้ายโทรศัพท์มาหลอกถามข้อมูลรหัส OTP และนำรหัสดังกล่าวไปถอนเงินสดออก ประกอบกับได้รับการประสานงานจากธนาคารไทยพาณิชย์ว่าได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหาย จำนวน 34 ราย รวมความเสียหาย 1,867,921 บาท ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็นพนักงานคอลเซ็นเตอร์ธนาคารไทยพาณิชย์หลอกถามข้อมูลรหัส OTP และคนร้ายนำรหัสดังกล่าวไปสมัครแอพพลิเคชั่น SCB EASY แล้วทำการถอนเงินสดออกโดยไม่ใช้บัตรเอทีเอ็ม หรือ Cardless จึงได้รวบรวมข้อมูลโดยส่งเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวน ฝ่ายการป้องกันอาชญากรรมทางการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ประสานข้อมูลผ่านเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศตำรวจภูธรภาค 5, กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5, ตำรวจภูธรจังหวัดแพร่ และสถานีตำรวจภูธรเมืองแพร่ ร่วมทำการสืบสวนจนทราบตัวคนร้าย
ตำรวจภูธรภาค 5 โดย พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5 , พล.ต.ต.วรัตม์ชัย ศรีรัตนวุฑฒิ รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.สมสง่า ชรินทร์ รอง ผบช.ภ.5 , พล.ต.ต.วันชัย สุวรรณศิริเขต
รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.กฤตธาพล ยี่สาคร รอง ผบช.ภ.5 , พล.ต.ต.บัณฑิต ตุงคะเศรณี
รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.อดุลย์ ดรุณเพท รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี ผบก.สส.ภ.5, พล.ต.ต.นันทวิทย์ เทียมบุญธง ผบก.ภ.จว.แพร่ จึงได้สั่งการให้ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศตำรวจภูธรภาค 5 ทำการสืบสวนรวบรวมพยานฐานจนทราบตัวคนร้ายและขออนุมัติศาลจังหวัดแพร่ขอหมายจับผู้ต้องหาคือ
นายสรวิศิษฐ์หรือภู่ จิตต์เที่ยง อายุ 35 ปี หมายเลขประจำตัวประชาชน 1-1020-00123-43-8 บ้านเลขที่ 23/69 หมู่ 2 ต.เสม็ด อ.เมืองชลบุรี จว.ชลบุรี ตามหมายจับของศาลจังหวัดแพร่ ที่ จ.211/2562 ลงวันที่ 1 ตุลาคม 2562 โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์โดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น
ต่อมาเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2562 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามจับกุมตัว นายสรวิศิษฐ์ หรือ ภู่ จิตต์เที่ยง ได้ที่บริเวณบ้านเอื้ออาทร ศาลายา 2 ตึกที่ 23 ห้องพักเลขที่ 90/432 ต.ทรงคนอง
อ.สามพราน จว.นครปฐม หลังทำการจับกุมนายสรวิศิษฐ์หรือภู่ จิตต์เที่ยง ให้การว่าได้รับรหัสถอนเงินสดออกโดยไม่ใช้บัตรเอทีเอ็มจากกลุ่มคนร้ายซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างหลบหนี แล้วนายสรวิศิษฐ์หรือภู่ จิตต์เที่ยง จะแต่งกายปลอมตัวปกปิดใบหน้า หรือสวมใส่วิกผม เพื่อหลอกตำหนิรูปพรรณ อีกทั้งในการไปถอนเงินแต่ละครั้งจะมีการสับเปลี่ยนยานพาหนะ หรือใช้ป้ายทะเบียนรถยนต์ปลอมหรือใช้ขนส่งสาธารณะ เพื่อให้ฝ่ายสืบสวนติดตามไม่ได้ แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนโทรศัพท์หลอกถามรหัส OTP และสมัครแอพพลิเคชั่น SCB โดยหน้าที่ดังกล่าวเป็นของกลุ่มคนร้ายซึ่งกำลังหลบหนีอยู่ปัจจุบัน