เตือนภัย! ระวังถูกหลอกให้ลงทุนร้านกาแฟใน ม.ดัง เชียงใหม่ พบผู้เสียหายแล้วสิบกว่าราย มูลค่ารวมกว่า 10 ล้านบาท

6690

เตือนภัย! ระวังถูกหลอกให้ลงทุนร้านกาแฟใน ม.ดัง เชียงใหม่ พบผู้เสียหายแล้วสิบกว่าราย มูลค่ารวมกว่า 10 ล้านบาท

     ผู้สื่อข่าว CM108.COM ได้รับการติดต่อจากผู้เสียหายจำนวน 2 ราย แจ้งว่าถูกหลอกให้ร่วมลงทุนในร้านกาแฟ ภายในมหาวิทยาลัยดังในเชียงใหม่ โดยขณะนี้พบว่ามีผู้เสียหายแล้วสิบกว่าราย มูลค่ารวมกว่า 10 ล้านบาท

     โดยผู้เสียหายเล่าว่าพฤติกรรมของหญิงสาวคนที่หลอกลวงคนดังกล่าว จะมีการโพสต์หาผู้ร่วมลงทุนในร้านกาแฟ ซึ่งเป็นร้านที่ตั้งอยู่ใน มหาวิทยาลัยดัง ในจังหวัดเชียงใหม่ และยังพบว่ามีการสุ่มทักไปหาผู้เสียหายเพื่อชวนลงทุนก็มี ซึ่งผู้เสียหายแต่ละคนก็จะมีวิธีที่ชักชวนให้ลงทุนแตกต่างกันไป โดยจะเสนอให้ลงทนเป็นหุ้นส่วนของร้าน ด้วยสัญญาหุ้นและเงินลงทุน ซึ่งผู้เสียหายแต่ละคนยอดเงินลงทุนก็จะแตกต่างกันออกไป เริ่มต้นตั้งแต่หลักแสนบาทขึ้นไป โดยในสัญญาบอกว่าจะมีการแบ่งเงินปันผลให้ทุกเดือนเริ่มต้นตั้งแต่หลักหมื่นบาท ซึ่งผู้เสียหายส่วนใหญ่ก็หลงเชื่อ เนื่องจากร้านกาแฟก็เป็นร้านที่มีอยู่จริง ตั้งอยู่ในมหาวิทยาลัย อีกทั้งยังเอกสารหลักฐานการเช่าที่ต่างๆแนบมาเพื่อให้ผู้เสียหายดูอีกด้วย แต่ทางหญิงสาวคนดังกล่าว ได้ห้ามไม่ให้ผู้เสียหายไปติดต่อเจ้าของร้านกาแฟตัวจริง(ทราบต่อมาเป็นอดีตสามีของหญิงสาวคนดังกล่าว) เพราะไม่ต้องการให้เจ้าของร้านและทางเจ้าข้องพื้นที่ทราบว่าตนเองซึ่งเป็นคนนอกมาเป็นหุ้นส่วนร้านกาแฟ ซึ่งทางผู้เสียหายก็ไม่ได้เอะใจแต่อย่างใด

      หลังจากนั้นผู้เสียหายก็รอรับเงินปันพลตามวันที่สัญญาระบุว่า แต่ปรากฏว่าไม่มีการจ่ายเงินปันพลตรงตามวันที่กำหนด โดยมีการขอผลัดไปเรื่อย อ้างเหตุผลต่างๆนาๆ แต่ยังคงยืนยันว่าได้แน่นอน ซึ่งพบว่าผู้เสียหายบางคนได้รับเงินในครั้งแรกล่าช้าไปเกือบหนึ่งเดือนก็มี โดยผู้เสียหายบางท่านเริ่มรู้ตัว และได้มีการทวงถามอยู่หลายครั้ง โดยหญิงสาวคนดังกล่าว ได้มีการโอนเงินปันผลให้ผู้เสียหายจริง แต่โอนไม่ครบบ้าง ผ่อนจ่ายบ้าง ซึ่งไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ในสัญญา

      ทางผู้เสียหายส่วนหนึ่งจึงได้ตัดสินใจที่จะติดต่อไปยังร้านกาแฟดังกล่าว ซึ่งอดีตสามีของหญิงสาวคนดังกล่าวเป็นเจ้าของร้านอยู่จึงทราบว่า หญิงสาวคนดังกล่าว ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับร้านกาแฟนี้แต่อย่างใด เอกสารที่เอาไปให้ปู้เสียหายดูก็เป็นของปลอมทั้งสิ้น และยังทราบจากเจ้าของร้านอีกว่ามีผู้เสียหายอีกหลายรายมาตามสอบถามถึงที่ร้านเช่นเดียวกัน

      ผู้เสียหายเมื่อพอทราบเรื่องดังกล่าวก็ไม่สามารถติดต่อหญิงสาวคนดังกล่าวได้แล้ว จนกระทั่งทราบต่อมาว่าหญิงคนดังกล่าวถูกตำรวจภูธรภาค 5 จับในข้อหาคดีฉ้อโกงอื่น ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้เสียหายที่ถูกหลอกให้ร่วมลงทุนในร้านกาแฟนั้นก็ได้มีการแจ้งความไว้แล้วในหลายพื้นที่ของเชียงใหม่ แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆทั้งสิ้น โดยทางผู้เสียหายได้พยายามดำเนินเรื่องมาตลอดตลอด อีกทั้งยังได้ติดต่อมาทางผู้สื่อข่าวเพื่อช่วยเตือนภัย และหากมีผู้เสียหายที่ถูกหญิงคนนี้หลอก ให้รีบไปแจ้งความโดยด่วน ถึงแม้ว่าหญิงคนดังกล่าวจะถูกจับแล้วแต่ก็เป็นข้อหาอื่น ซึ่งไม่ใช่ข้อหาที่หลอกให้ลงทุนร้านกาแฟ ทำให้ผู้เสียหายยังคงต้องรวมกลุ่มกันเพื่อดำเนินเรื่องต่อไปให้ถึงที่สุด