ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ประชุมประสานการทำงานของทุกหน่วย โดยบูรณาการทั้งคน งาน และเงิน พร้อมวางกลยุทธ์การทำงานใหม่ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าของจังหวัดเชียงใหม่ประสบความสำเร็จ
นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมเพื่อแถลงแผนงานการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม ที่ห้องประชุมกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเชียงใหม่ ศาลากลาจังหวัดเชียงใหม่ โดยได้สั่งการให้สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 (เชียงใหม่) และสำนักงานจัดการทัพยากรป่าไม้ที่ 1 เชียงใหม่ จัดทำข้อมูลพื้นที่ป่า พื้นที่เสี่ยง และพื้นที่ทำกิน ในแต่ละอำเภออย่างชัดเจน พร้อมทำความเข้าใจกับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่
ในการป้องกันไม่ให้เกิดจุดความร้อน หรือ Hotspot ซึ่งหากเกิดจุดความร้อนเจ้าของพื้นที่ต้องรับผิดชอบ และภายในเดือนธันวาคมนี้ ต้องทราบเป้าหมายและข้อมูลที่ชัดเจน ทั้งในเชิงบุคคล เชิงพื้นที่ โดยเฉพาะในเรื่องของพื้นที่ผ่อนผันทำกิน ต้องรู้ว่ามีการปลูกพืชอะไร เนื้อที่เท่าใด และต้องสื่อสารทำความเข้าใจกับประชาชนเกี่ยวกับการบริหารจัดการเชื้อเพลิง โดยไม่จำเป็นต้องจัดการเชื้อเพลิงพร้อมกัน แต่ต้องสะท้อนความเป็นจริง และการบริหารเชื้อเพลิงต้องทำได้ดีที่สุด ซึ่งเมื่อทำแผนบริหารจัดการเชื้อเพลิงแล้ว หากเกิดจุดความร้อนในพื้นที่ใด เจ้าของพื้นที่ต้องถูกสอบสวนด้วย ดังนั้นจึงต้องดูแลรับผิดชอบพื้นที่ของตนเองให้ดี ทั้งนี้อาจไม่มีการกำหนดวันห้ามเผาเหมือนที่ผ่านมา
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่า ในเขตพื้นที่ป่าเมื่อมีการประกาศปิดป่า ทำให้คนหาของป่าขาดรายได้ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดอบรมให้ความรู้ สร้างอาชีพเสริม หรือจ้างให้เป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงานป่าไม้ ในการดูแลป่า เพื่อช่วยเหลือในช่วงที่มีการปิดป่า ขณะที่ นายอำเภอ หรือผู้นำในพื้นที่ ต้องประชุมประชาคมหมู่บ้าน ประสานงานในทุกระดับ ซึ่งตนเองมีแนวคิดว่าหากหมู่บ้านชุมชนใดประสบความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า จะพิจารณามอบเงินเป็นขวัญกำลังใจ นอกจากนี้ ยังมีแนวทางให้ตำบลจัดชุดดับไฟอย่างน้อย 1 ชุด อยู่ในความดูแลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งจะเป็นจิตอาสาภัยพิบัติ เป็นชุดปฏิบัติการเสริมกำลังให้กับชุดดับไฟป่า
นอกจากนี้ ยังเน้นย้ำในหลายเรื่อง โดยเฉพาะการอบรม ต้องไม่ใช่การอบรมในห้อง แต่ต้องเป็นการอบรมเชิงปฏิบัติการ เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์ได้ทันที ส่วนการสั่งการในพื้นที่ซึ่งมีศูนย์ฯ อำเภอ นายอำเภอคือผู้สั่งการ เพื่อป้องกันการคลาดเคลื่อนของข้อมูลและการสั่งการต่างๆ ในพื้นที่ รวมไปถึงให้ทุกหน่วยงานร่วมกันบูรณาการขับเคลื่อนการทำงานร่วมกันอย่างจริงจังและต่อเนื่อง และระบบการสื่อสารต้องสามารถประสานการปฏิบัติงานของทุกหน่วยได้ตลอดเวลา
ส่วนเรื่องหน้ากากอนามัย ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่า มอบให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเป็นผู้ประเมินความต้องการใช้หน้ากากอนามัยในแต่ละห้วงเวลา พร้อมทั้งจัดหาหน้ากากอนามัย และสั่งการในการแจกจ่ายหน้ากากอนามัยเพียงหน่วยงานเดียว
ที่มา : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่