กรมการขนส่งทางบก เตือน!!! จุดบอดของรถบรรทุกหรือรถขนาดใหญ่ มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุเป็นอย่างมากโดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ ควรหลีกเลี่ยงการขับรถตามหลังรถขนาดใหญ่ หรืออยู่ในพื้นที่ที่เป็นจุดบอดของรถขนาดใหญ่
นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะที่ได้รับความนิยมใช้ในการเดินทางสูง เนื่องจากสะดวกและรวดเร็ว โดยเฉพาะในเขตชุมชน หรือเส้นทางการจราจรติดขัด ซึ่งอุบัติเหตุ ส่วนใหญ่มักเกิดจากพฤติกรรมเสี่ยงของผู้ขับขี่ เช่น การประเมินสถานการณ์ ความผิดพลาดในการตัดสินใจเมื่อต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ฉุกเฉิน ความผิดพลาดในการควบคุมรถ ความไม่ตั้งใจในการขับรถ หรือเกิดจากการฝ่าฝืน หรือกระทำผิดกฎจราจรของผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ โดยอุบัติเหตุที่เกิดระหว่างรถจักรยานยนต์กับรถบรรทุกหรือรถขนาดใหญ่ ที่เกิดจากการมองเห็นของรถบรรทุกหรือรถขนาดใหญ่ มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุเป็นอย่างมาก ซึ่งผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ควรหลีกเลี่ยงการเข้าไปอยู่ในพื้นที่จุดบอด ทั้งนี้พื้นที่อันตรายของรถขนาดใหญ่ ได้แก่ บริเวณด้านขวา และด้านหน้าของรถบรรทุกและรถขนาดใหญ่ที่บดบังทัศนวิสัยในการมองเห็น เนื่องจากความสูงของตัวรถ ด้านหลังของรถบรรทุกที่กระจกมองหลังของคนขับรถบรรทุกไม่สามารถเห็นด้านหลังของรถได้ และด้านซ้ายของรถบรรทุก ที่มีทัศนวิสัยแคบ โดยผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ควรหลีกเลี่ยงเข้าไปอยู่ใกล้พื้นที่บอดของรถบรรทุกในทุกกรณี
อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อปลูกฝังวินัยจราจรให้ผู้ขับรถและผู้ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ตระหนักถึงความสำคัญของการสวมหมวกนิรภัย กรมการขนส่งทางบก พร้อมกระตุ้นและส่งเสริมความปลอดภัยทางถนนด้วยการนำร่องเป็นองค์กรแห่งความปลอดภัย กำหนดให้เขตพื้นที่ภายในสำนักงานของกรมการขนส่งทางบกและสำนักงานขนส่งจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศเป็นเขตสวมหมวกนิรภัย 100% ซึ่งจะเริ่มต้นจากเจ้าหน้าที่บุคลากรภายในหน่วยงานของกรมการขนส่งทางบกในการเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับประชาชนที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ เข้ามาติดต่อราชการ อันจะนำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้รถใช้ถนนของผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ เพื่อร่วมเสริมสร้างจิตสำนึก ความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน พร้อมจัดสถานที่จอดรถจักรยานยนต์สำหรับผู้ที่ไม่ได้สวมหมวกนิรภัยเข้ามาติดต่อราชการภายในบริเวณเขตพื้นที่สวมหมวกนิรภัย 100% ไว้โดยเฉพาะ พร้อมเชิญชวนให้ผู้ใช้รถจักรยานยนต์ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของการสวมหมวกนิรภัย ซึ่งนอกจากจะช่วยป้องกันและลดความรุนแรงของการบาดเจ็บ จากอุบัติเหตุทางถนนแล้วยังช่วยลดความสูญเสียชีวิตได้ด้วย ทั้งนี้เพื่อลดระดับความรุนแรงของการบาดเจ็บและช่วยป้องกันการสูญเสียชีวิต ขอแนะนำประชาชนควรเลือกใช้หมวกนิรภัยที่มีคุณภาพและมาตรฐานตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) พร้อมเชิญชวนผู้ใช้รถจักรยานยนต์ทั้งผู้ขับขี่และผู้ซ้อน สวมหมวกนิรภัยทุกครั้งที่เดินทาง ใช้ความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด ไม่ซ้อนท้ายเกินหนึ่งคน เพราะรถจะเสียการทรงตัว โดยเฉพาะการ ขับผ่านบริเวณทางแยก หรือออกจากซอย และตรวจสอบสัญญาณไฟท้ายรถจักรยานยนต์ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ซึ่งจะช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นเส้นทางและป้องกันอุบัติเหตุจากการชนท้ายได้อีกทางหนึ่ง อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวในที่สุด