(มีคลิป Video) ทีมแพทย์สวนดอกแถลง ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนารักษาหายแล้ว รอผลตรวจยืนยันซ้ำอีกครั้งก่อนให้ออกโรงพยาบาลได้
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 6 ก.พ.63 รายงานข่าวแจ้งว่า ที่ห้องประชุมชั้น 15 อาคารเฉลิมพระบารมี คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ศาสตราจารย์นายแพทย์ บรรณกิจ โลจนาภิวัฒน์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พร้อมด้วยรองศาสตราจารย์นายแพทย์ ชัยวัฒน์ บำรุงกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ และ คณะแพทย์ ได้ร่วมกันแถลงข่าวผลการรักษาผู้ป่วยชาวจีน อายุ 28 ปี ที่ตรวจพบติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่และเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ โดยระบุว่าผู้ป่วยรายนี้หายจากอาการป่วยแล้ว และรอเพียงผลตรวจซ้ำยืนยันจากห้องปฏิบัติการ ก่อนจะจำหน่ายออกจากโรงพยาบาล
ทั้งนี้ ศาสตราจารย์นายแพทย์บรรณกิจ เปิดเผยว่า ผู้ป่วยชาวจีนคนนี้ อายุ 28 ปี เดินทางจากเมืองจิงโจว มณฑลหูเป่ย มาถึงจังหวัดเชียงใหม่ตั้งแต่วันที่ 15 ม.ค. 63 ที่ผ่านมา และได้เข้าตรวจรับการรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชในวันที่ 21 ม.ค. 63 เพราะมีอาการไข้ ไอ มีน้ำมูก ผลการตรวจตัวอย่างจากช่องจมูกและคอในห้องปฏิบัติการ 2 ครั้ง ในวันที่ 22 และ 25 ม.ค.63 ไม่พบเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ และ ภาพรังสีปอดเบื้องต้นเป็นปกติ แต่หลังจากนั้นในวันที่ 27 ม.ค. 63 ผู้ป่วยยังคงมีไข้และมีอาการไอมากขึ้น คณะแพทย์จึงได้เอ็กซเรย์ทรวงอกซ้ำอีกครั้ง เมื่อเทียบกับผลเอ็กซเรย์ครั้งแรกรับ พบอาการปอดอักเสบ เมื่อส่องกล่องและส่งตรวจน้ำล้างปอดจึงทำให้พบว่าติดเชื้อโคโรน่าไวรัสสายพันธ์ใหม่ จึงต้องมีการรักษา
โดยความคืบหน้าล่าสุด ขณะนี้ผู้ป่วยได้พักรักษาตัวอยู่ในห้องแยกความดันอากาศเป็นลบสำหรับผู้ติดเชื้อทางเดินหายใจ ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นตามลำดับ ไข้เริ่มลดลงตั้งแต่วันที่ 28 ม.ค. 63 และ ปัจจุบันไม่มีไข้แล้ว คณะแพทย์ผู้รักษากำลังรอผลการตรวจจากห้องปฏิบัติการตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อยืนยันว่าผู้ป่วยพ้นระยะแพร่เชื้อแล้ว จึงจะจำหน่ายผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาล
ทางด้าน นายแพทย์ปรเมษฐ์ วินิจจะกูล อาจารย์หน่วยโรคติดเชื้อและเวชศาสตร์เขตร้อน ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เน้นการรักษาตามอาการ เป็นหลัก เช่น ให้ ยาลดไข้ ยาขับเสมหะ ให้สารน้ำและออกซิเจน โดยไม่มีการให้ยาอื่น โดยเฉพาะยาฆ่าเชื้อไข้หวัดใหญ่ร่วมกับยาต้านไวรัสเอชไอวี ตามที่มีกระแสข่าวอยู่ในขณะนี้ สำหรับทีมแพทย์ พยาบาล และ บุคลากรที่สัมผัสกับผู้ป่วยรายนี้ ทางโรงพยาบาลได้กักบริเวณเพื่อติดตามวังเกตอาการเป็นเวลา 14 วัน ซึ่งล่าสุดผลออกมาแล้วว่าไม่มีใครติดเชื้่อจากผู้ป่วยรายนี้
ขณะที่ รศ.พญ.รมณีย์ ชัยวาฤทธิ์ หน่วยโรคติดเชื้อและเวชศาสตร์เขตร้อน ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ เปิดเผยว่า จนถึงขณะนี้ตัวเลขผู้ป่วยที่เข้าสู่ระบบสอบสวนโรคและสังเกตอาการในจังหวัดเชียงใหม่มีทั้งสิ้น 60 ราย ในจำนวนนี้อยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ 17 ราย ใน 17 รายนี้ตรวจพบติดเชื้อ 1 ราย และ ขณะนี้รอพลตรวจยืนยันอีก2 ราย ทั้งสองเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เข้ามาตรวจรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ด้วยตัวเอง ส่วน 14 ราย ที่เหลือ ไม่พบติดเชื้อ อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ทางโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ยังคงมาตรการเข้มในการป้องกันการแพร่ระบาด โดยมีการจำกัดทางเข้าออกให้เหลือเพียง 5 ช่องทาง พร้อมเจ้าหน้าที่คอยคัดกรองอุณหภูมิและซักประวัติ รวมทั้งจัดสถานที่รักษาสำหรับผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงต่างกัน แยกออกจากกัน เพื่อความปลอดภัยสูงสุด
