เกษตรกร อ.ดอยหล่อ พลิกวิกฤติเป็นโอกาส ปลูกแตงกวาหอมเตยช่วงฤดูแล้งส่งออกต่างประเทศ สร้างรายได้งาม
พลิกวิกฤติเป็นโอกาสเกษตรกร อำเภอดอยหล่อ ปลูกพืชฤดูแล้งแตงกวาหอมเตย ส่งออกต่างประเทศ ราคาดี โดยพื้นที่ปลูก 1 ไร่ ขายได้ราคา 1 แสน 5 หมื่นบาท ใช้เวลาปลูกเพียง 3 เดือนก็สามารถเก็บเกี่ยวได้ ที่สำคัญประหยัดน้ำ โดยแตงกวาหอมเตยมีคุณสมบัติพิเศษมีกลิ่นใบเตย ต่างจากแตงกวาทั่วไป ซึ่งมีการพัฒนาสายพันธุ์จากแตงกวาทั่วไปที่มีขนาดเล็กกับแตงพื้นบ้านที่มีขนาดใหญ่แต่มีกลิ่นหอมคล้ายใบเตย จึงออกมาเป็นแตงกวากลิ่นใบเตย ซึ่งถือว่ามีแห่งเดียวที่ปลูก นอกจากนี้เกษตรกรยังได้ทดลองนำพริกหวานหลากสี มาปลูกผลผลิตที่ออกมามีคุณภาพสูงเตรียมต่อยอดส่งออกต่างประเทศ
เกษตรกรสมาชิก กลุ่มวิสาหกิจชุมชนการเกษตรเพื่อการตลาดดอยหล่อ ต่างเร่งเก็บเกี่ยวผลผลิต แตงกวาหอมเตย ที่กำลังออกผลเต็มพื้นที่ปลูกเพื่อนำไปคัดแยกขนาดก่อนจะนำไปจำหน่ายให้กับ ภูเวียงเวจแอนด์ฟรุต ซึ่งตัวแทน จัดจำหน่ายสินค้า โดยก่อนหน้านี้กลุ่มเกษตรกร ได้เริ่มเพาะปลูกแตงกวาหอมเตย ในพื้นที่ประมาณ 6 ไร่ ใช้ระยะเวลาปลูกประมาณ 3 เดือน ก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ซึ่งเกษตรกรลงทุนเจาะน้ำบาดาล ใช้ระบบน้ำหยด โดยต้นแตงกว่า 1 ต้นใช้น้ำเพียง 20 ลิตร ต่อฤดูกาล ทำให้ประหยัดน้ำจึงสามารถปลุกได้ในฤดูแล้ง นอกจากนี้เกษตรกรทำระบบเกษตรอินทรีย์ ในการเพาะปลูก ผลผลิตที่ได้จึงปลอดสารเคมีและช่วยประหยัดค่าปุ๋ย และค่ายาฆ่าแมลงอีกด้วย
ซึ่งการปลูกแตงกวาหอมเตย พื้นที่ปลูก 1 ไร่ จะปลูกได้ 4 พันต้นจะได้น้ำหนักประมาณ 15,000-20,000 กิโลกรัม ส่วนราคาวางขายแบบแพ็คบรรจุกล่อง 500 กรัม ขาย 69 บาท ในไทย ถ้าขายส่งรากิโลกรัมละ 85 บาท ดังนั้นพื้นที่ปลูก 1 ไร่สามารถขายแตงกวาหอมเตย ได้เงินไม่ต่ำกว่า 1 แสน 5 หมื่นบาท เลยทีเดียวนับว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของเกษตรกร ในการทำการเกษตรในช่วงฤดูแล้ง ซึ่งตอนนี้มี ยอดสั่งจองเพิ่มขึ้นจากเดิมทั้งในและต่างประเทศเนื่องจากการตอบรับของผู้บริโภค นอกจากนี้แตงกวาหอมเตยเป็นแตงกวาท่อนที่มีลักษณะลูกยาวประมาณ 10-15 เซนติเมตร มีสีเขียวเข้มทั้งลูกเห็นแล้วน่ารับประทาน รสชาติหวาน กรอบ การดูแลรักษาเหมือนกับแตงกวาทั่วไป อายุการเก็บเกี่ยวหลังจากปลูกประมาณ 35 วัน เก็บได้ทุกวันและสามารถเก็บได้อีก35 วัน
ด้านนายศุภธนิศร์ ภูเวียงจันทร์ ประธานวิสาหกิจชุมชนการเกษตร เพื่อการตลาดดอยหล่อ เปิดเผยว่า แตงกวาหอมเตยเป็นแตงกวาที่พัฒนาสายพันธุ์มาจากแตงพันธุ์พื้นบ้านทางภาคเหนือและแตงกวาท่อน ที่มีผลขนาดใหญ่ขนาดฟักเขียวอ่อน แต่มีกลิ่นหมอคล้ายใบเตย ทางกลุ่มจึงเกิดแนวคิดจะพัฒนาเป็นสินค้าตัวใหม่แต่ยังขาดประสบการณ์ในด้านวิชาการจึงนำแนวคิดดังกล่าวไปพูดคุยกับทางเอกชนที่มีความรู้ความสามารถอยู่แล้วในด้านการพัฒนาสายพันธุ์จึงเกิดเป็นโครงการพัฒนาสายพันธุ์ร่วมขึ้นมา จนสำเร็จได้แตงกวาท่อนหอมเตย ที่มีขนาดเล็กเท่าแตงกว่าทั่วไปแต่มีกลิ่นหอมคล้ายใบเตย ซึ่งถือว่ามีที่นี่ที่เดียวที่ปลูก
ซึ่งแตงกวาหอมเตยเป็นแตงกวาที่มีความโดดเด่นในด้านสายพันธุ์ที่ยังไม่มีที่ไหนและกลิ่นของใบเตยตั้งแต่เดินเข้าไปในแปลงเพาะปลูกและเมื่อดมหรือเคี้ยวกลิ่นหอมของใบเตยจะขึ้นจมูกสัมผัสถึงกลิ่นของใบเตยอย่างชัดเจน อีกทั้งยังได้รับรสความหวานกรอบ เนื้อแน่น แตงกวาหอมเตยยังมีประโยชน์อื่นนอกจากแตงกวาทั่วไปคือ กลิ่นของแตงหอมเตย ยังช่วยในการผ่อนคลาย
ประธานวิสาหกิจชุมชนการเกษตร เพื่อการตลาดดอยหล่อ กล่าวเพิ่มเติมว่านอกจากนี้ทางกลุ่มยังได้ทดลองนำพริกหวานแฟนซีหลากสี มาปลูกซึ่งต้องปลูกในพื้นที่สูงที่มีอากาศเย็น โดยปลูกแบบปลอดสารพิษใช้เวลาเพียง 2 เดือน ผลผลิตที่ออกมามีคุณภาพสูงเตรียมต่อยอดส่งออกต่างประเทศ ซึ่งพริกหวานแฟนซีมีรสชาติ หวาน หอม กรอบ ต่างประเทศนิยมนำไปประกอบอาหาร ทานสดก็ได้ หรือนำไปจิ้มกินกับซอสทรอบปิ้ง เช่นนมข้นหวาน ช็อกโกแลต มายองเนส หรือ น้ำผึ้ง ทำเป็นของทานเล่น ก็จะได้รสชาติ ทั้ง หวาน หอม กรอบและมัน ของทรอบปิ้งที่นำมารับประทานด้วย
ด้านนางสายสุนี ผลศรัทธา รักษาการ เกษตรอำเภอดอยหล่อเปิดเผยว่า ได้รับนโยบายจังเกษตรจังหวัดเชียงใหม่ ในการผลักดันเกษตรกรที่มีความสามารถในการต่อยอดองค์ความรู้ ซึ่งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนการเกษตรเพื่อการตลาดดอยหล่อ เป็นกลุ่มเกษตรกรตัวอย่างที่สามารถต่อยอดการทำเกษตร young smart farmer หรือเกษตรกรรุ่นใหม่ ซึ่งใช้ระบบนำการผลิต มีการวางแผนการปลูกพืช ลดต้นทุนไม่ใช้สารเคมี ผลิตผลผลิตไม่มากแต่ได้คุณภาพ เน้นความปลอดภัยกับผู้บริโภค ทำให้ขายได้ราคาสูง ทำให้กลุ่มสามารถเพาะปลูกพืชหลายชนิดออกมาจำหน่ายได้ทั้งปี ถึงแม้จะเป็นช่วงฤดูแล้ง