ทอ.เชียงใหม่ เผยผลการดำเนินงานครบรอบ 32 ปี เร่งแก้ปัญหาเรื่องพื้นที่จอดรถยนต์ ก่อสร้างอาคารรองรับได้ 1,300 คัน คาดเปิดใช้งาน ก.ย. 63

2345

ทอ.เชียงใหม่ เผยผลการดำเนินงานครบรอบ 32 ปี เร่งแก้ปัญหาเรื่องพื้นที่จอดรถยนต์ ก่อสร้างอาคารรองรับได้ 1,300 คัน คาดเปิดใช้งาน ก.ย. 63

     เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 63 เรืออากาศโท ธนันท์รัฐ ประเสริฐศรี รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทชม.ทอท.) กล่าวในโอกาสครบรอบ 32 ปี การดำเนินงานของท่าอากาศยานเชียงใหม่ ว่า ท่าอากาศยานเชียงใหม่ เป็นท่าอากาศยาน 1 ใน 6 แห่ง ภายใต้การกำกับดูแลของ ทอท.ได้รับโอนกิจการ จากกรมการบินพาณิชย์มาอยู่ในความดูแล ของการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2531 และแปรสภาพเป็น บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2545 โดยได้มุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพการให้บริการในทุกๆ ด้าน ภายใต้ค่านิยมหลัก 5 ประการ ได้แก่ ให้ใจ มั่นใจ ร่วมใจ เปิดใจ และภูมิใจ

     ปัจจุบันโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพของท่าอากาศยานเชียงใหม่ มีศักยภาพในการรองรับผู้โดยสาร 8 ล้านคนต่อปี แต่จากจำนวนผู้โดยสารในปี 2561 ที่สูงกว่า 11 ล้านคน ส่งผลให้เกิดความแออัดและสิ่งอำนวยความสะดวกไม่เพียงพอในบางช่วงเวลา ซึ่งท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้ดำเนินการปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ขยายพื้นที่การให้บริการ และบริหารจัดการเส้นทางเดินของผู้โดยสาร เพื่อให้ผู้โดยสาร และผู้ใช้บริการได้รับความสะดวกรวดเร็วมากที่สุด ภายใต้คุณภาพการให้บริการในระดับสากลและมาตรฐานความปลอดภัยขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) มาโดยตลอด และในปี 2563 มีงานบรรเทาความแออัดและงานพัฒนาเพิ่มขีดความสามารถและคุณภาพการให้บริการ ที่สำคัญดังนี้

1. งานก่อสร้างอาคารจอดรถยนต์สัมปทาน ปัจจุบันดำเนินการไปแล้วกว่าร้อยละ 50 คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการในเดือนกันยายน 2563 ซึ่งจะสามารถรองรับการจอดรถยนต์ได้ 1,300 คัน

2. งานก่อสร้างอาคารอเนกประสงค์ ซึ่งจะประกอบด้วยพื้นที่เชิงพาณิชย์ 3 ชั้น และพื้นที่จอดรถยนต์ 400 คัน ปัจจุบันอยู่ระหว่างขออนุญาตก่อสร้าง ดำเนินการโดย บริษัท กิจการร่วมค้าแอทยู พอร์ท จำกัด ระยะเวลาก่อสร้าง 14 เดือน คาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างในเดือนมิถุนายน 2563

3. โครงการปรับปรุงพื้นที่บริเวณจุดตรวจค้นผู้โดยสาร เพื่อแก้ปัญหาความแออัดของจุดตรวจค้นผู้โดยสารขาออกและจุดตรวหนังสือเดินทาง อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ โดยจะเพิ่มพื้นที่หน้าจุดตรวจค้นสำหรับผู้โดยสารและพนักงาน เพิ่มพื้นที่และจำนวนเคาน์เตอร์จุดตรวจหนังสือเดินทาง และแยกช่องทางเข้าออกเฉพาะของเจ้าหน้าที่เพื่อลดการปะปนของเจ้าหน้าที่กับผู้โดยสารในการเข้าออกพื้นที่ ซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย

4. งานปรับปรุงระบบปรับอากาศอาคารผู้โดยสารภายในประเทศท่าอากาศยานเชียงใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำความเย็นของระบบปรับอากาศ คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนมิถุนายน 2563

5. การก่อสร้างพื้นที่ห้องคัดกรองผู้โดยสาร เพื่อคัดกรองและกักกันผู้โดยสารที่เดินทางมาจากประเทศต้นทางที่มีการระบาดของโรคติดต่อร้ายแรง ตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก

     ส่วนโครงการพัฒนาท่าอากาศยานเชียงใหม่ ระยะที่ 1 ที่มีเป้าหมายรองรับผู้โดยสาร 16.5 ล้านคน ซึ่งเดิมจะเริ่มดำเนินการในปี 2563-2565 นั้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (Environmental Impact Assessment : EIA) เพิ่มเติมในบางประเด็น คาดว่าจะเริ่มดำเนินการตามแผนในปี 2565

สำหรับผลการดำเนินงานของท่าอากาศยานเชียงใหม่ ในปี 2562 (มกราคม ถึง ธันวาคม 2562) มีดังนี้

1.ปริมาณการจราจรทางอากาศ มีอากาศยานพาณิชย์ ขึ้น-ลง 79,529 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ร้อยละ 1.69 มีเที่ยวบินเฉลี่ย 220 เที่ยวบินต่อวัน

2. มีจำนวนผู้โดยสาร 11.34 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ร้อยละ 3.17 เฉพาะผู้โดยสารที่เดินทางระหว่างประเทศมีประมาณ 3.23 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 20.92 ในจำนวนดังกล่าวเป็นผู้โดยสารชาวจีนถึงกว่า 1.69 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ประมาณร้อยละ 19

3. มีปริมาณการขนถ่ายสินค้า 12,567 ตัน ลดลงจากปี 2561 ร้อยละ 15.72