กระทรวงสาธารณสุข เผยพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาเพิ่ม 1 ราย เป็นชายชาวอังกฤษ

3835

กระทรวงสาธารณสุข พบผู้ป่วยยืนยันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รายที่ 48 เป็นชายชาวอังกฤษ อายุ 43 ปี พร้อมส่งหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะประธานกรรมการโรคติดต่อจังหวัด แจ้งมาตรการรองรับแรงงานไทยที่เดินทางกลับมาจากประเทศที่เป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการระบาด       

     นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะแถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 ว่า ในวันนี้ได้รับรายงานพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ จำนวน 1 ราย และรอผลยืนยันอีก 1 ราย เป็นแรงงานนอกระบบจากเกาหลีใต้

     โดยผู้ป่วยยืนยัน รายที่ 48 เป็นชายชาวอังกฤษ อายุ 43 ปี อาชีพที่ปรึกษาบริษัท เดินทางมาจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2563 ระหว่างทางได้เปลี่ยนเครื่องที่ฮ่องกง เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2563 เข้ารับรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2563 ด้วยอาการไข้ มีเสมหะ ส่งตัวรักษาต่อที่สถาบันโรคทรวงอก

      ในส่วนการคัดกรองกลุ่มแรงงานนอกระบบจากประเทศเกาหลีใต้ พบหญิงไทย อายุ 30 ปี ตรวจพบอาการไข้ ได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิเมื่อวานนี้ (5 มีนาคม 2563) ส่งมารักษาตามระบบที่สถาบันบำราศนราดูร ตรวจพบเชื้อจากห้องปฏิบัติการ 1 แห่ง อยู่ระหว่างการยืนยันจากห้องปฏิบัติการอีกแห่ง

     โดยสรุปวันนี้ มีผู้ป่วยยืนยันที่รักษาหายแล้ว 31 ราย ยังรักษาตัวอยู่ใน โรงพยาบาล 16 ราย เสียชีวิต 1 ราย ผู้ป่วยสะสมในประเทศไทยขณะนี้ 48 ราย สำหรับผู้ป่วยอาการหนัก 1 ราย ที่รักษาตัวอยู่ที่สถาบันบำราศนราดูร ตรวจไม่พบเชื้อแล้ว แต่ยังอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ขณะนี้สถานการณ์ผู้ป่วยในประเทศไทยอยู่ลำดับที่ 24 ของโลก

     เมื่อวานนี้ (5 มีนาคม 2563) ราชกิจจานุเบกษาได้ลงประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ท้องที่นอกราชอาณาจักรที่เป็นเขตติดโรคติดต่ออันตราย กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โรคโควิด-19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)) พ.ศ. 2563 ให้ สาธารณรัฐเกาหลี สาธารณรัฐประชาชนจีน (รวมมาเก๊า และฮ่องกง) สาธารณรัฐอิตาลี และสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน เป็นเขตติดโรคนอกราชอาณาจักร ทั้งนี้ พื้นที่เสี่ยงที่จะประกาศเป็นเขตติดโรคอาจจะมีการปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ โดยพิจารณาข้อมูลสถานการณ์การระบาด เช่น จำนวนผู้ป่วยสะสม ผู้ป่วยรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนข้อมูลปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ

     ประกาศกระทรวงฯ ฉบับนี้จะช่วยให้เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการป้องกันควบคุมโรคกับผู้เดินทางซึ่งมาจากเขตติดโรคนอกราชอาณาจักร ได้อย่างมีประสิทธิภาพและความรวดเร็ว ทั้งนี้ เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่ (ผู้ว่าราชการจังหวัด,นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด,นายอำเภอ, สาธารณสุขอำเภอ, ผู้อำนวยการโรงพยาบาล และผู้ที่ได้รับแต่งตั้ง เป็นต้น) มีอำนาจดำเนินการตามกฎหมายได้ทันที เช่น นำผู้สงสัยว่าป่วย มารับการตรวจ แยกกัก หรือกักกัน ณ สถานที่ที่กำหนด ดำเนินการเอาผิดกับผู้ที่มีหน้าที่ต้องแจ้งเมื่อพบผู้ที่เป็นหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าเป็นโรค แต่ไม่ยอมแจ้งหรือไม่แจ้งภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด เป็นต้น

     ในส่วนการดูแลแรงงานไทยที่เดินทางกลับจากประเทศเกาหลีใต้นั้น กระทรวงสาธารณสุข ได้ส่งหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดในฐานะประธานกรรมการโรคติดต่อจังหวัด แจ้งมาตรการรองรับแรงงานไทยกลุ่มดังกล่าว ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องร่วมกันดูแลแรงงานไทยกลุ่มนี้ และสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับประชาชนในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น มีแนวทางการดำเนินงานดังนี้ 1.คัดกรองที่ท่าอากาศยาน (Entry Screening) หากผู้เดินทางมีอุณหภูมิร่างกายตั้งแต่ 37.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป ร่วมกับมีอาการ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ หอบเหนื่อย อย่างใดอย่างหนึ่ง จะส่งตัวไปที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจรักษา ตามระบบ กรณีตรวจไม่พบไข้ หากเดินทางมาจากพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ประเทศเกาหลีใต้(เมืองแทกูและคย็องซังเหนือ) เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อประจำด่านฯ จะประสานงานกับเจ้าหน้าที่ของกระทรวงคมนาคม นำตัวเข้ารับการกักกันเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 14 วัน ณ พื้นที่ควบคุมโรคที่รัฐบาลกำหนด ส่วนผู้ที่เดินทางมาจากเมืองอื่น จะส่งไปยังสถานที่หรือพื้นที่ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดไว้ เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 14 วัน โดยการกำกับของผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง