จ.เชียงใหม่ นำเครื่องบิน BT-67 บินโปรยน้ำบรรเทาฝุ่นควันในตัวเมืองวันละ 2 เที่ยว และระดมทุกภาคส่วนออกฉีดพ่นน้ำสร้างความชุ่มชื้นพร้อมกันทั้งจังหวัด ด้าน ผู้ว่าเน้นย้ำการลาดตระเวนเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงเกิดไฟอย่างต่อเนื่อง
เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2563 เวลา 11.00 น. นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการเชียงใหม่ เรียกประชุมศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อประเมินสถานการณ์และปรับแผนการปฏิบัติงานเกี่ยวกับมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นควันของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งจากการตรวจสอบโดยรอบพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ยังคงมีฝุ่นสะสมต่อเนื่อง โดยตั้งในเดือนมกราคมเป็นต้นมา ทางจังหวัดได้เน้นการบูรณาการทำงานของหน่วยงานทุกภาคส่วนเข้าไปดับไฟ ควบคู่ไปกับการลาดตระเวนทำแนวกันไฟ แต่พอมาถึงช่วงมีนาคม สถานการณ์ไฟป่ากลับทวีความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งพบว่าพื้นที่ตอนเหนือมีการเผาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จึงได้ปรับยุทธวิธีจากการทุ่มกำลังไปดับไฟ มาเน้นในการเฝ้าระวังป้องกันมากขึ้น โดยได้รับความร่วมมือจากกองทัพภาคที่ 3 จัดส่งกำลังพลจากกองกำลังผาเมือง กองพลทหารราบที่ 7 และมณฑลทหารบกที่ 33 ตลอดจนจิตอาสาร่มบิน จิตอาสาที่มีรถจักรยานยนต์วิบาก รวมทั้งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มาช่วยลาดตระเวนพื้นที่ ทำให้ลดจุดความร้อนลงได้มากขึ้น
ผู้ว่าราชการเชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมาพื้นที่ที่ถูกไฟไหม้ ร้อยละ 95 เป็นพื้นที่ป่า ทุรกันดาน มีความสูงชัน เข้าถึงยาก ทำให้ไม่สามารถดับไฟได้ จึงทำให้ Hotspot เพิ่มเป็นทวีคูน ทำให้ดูเหมือนเยอะมาก พร้อมกันนี้ยังได้มีการส่งกำลังเข้าไปกดดันคนที่เข้าไปหาของป่า ล่าสัตว์ และอาจมีความประมาททำให้เกิดไฟป่าได้ และต้องเพิ่มความเข้มข้นมากขึ้น โดยได้มีการเรียกประชุมทั้ง 25 อำเภอ ซึ่งแบ่งออกเป็น อำเภอโซนเหนือ อำเภอโซนกลาง และอำเภอโซนใต้ เน้นย้ำให้เพิ่มความสำคัญกับพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง ป้องกันไม่ให้เกิดไฟขึ้นอีก
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือ ได้สั่งการให้กองทัพอากาศ นำเครื่องบิน BT-67 บินโปรยน้ำในตัวเมืองที่เป็นที่ชุมชน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น และลดผลกระทบจากค่าฝุ่นควันที่มีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ โดยจังหวัดเชียงใหม่ ขอสนับสนุนอากาศยาน BT-67 ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป บินวันละ 2 เที่ยว เช้า-บ่าย จนถึงวันที่ 27 มีนาคม 2563 เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย และศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ ได้เตรียมพร้อมปฏิบัติการทำฝนเทียมเมื่อมีความชื้นเพียงพอ นอกจากนี้ยังได้ประสานไปยังจังหวัดใกล้เคียง ให้ร่วมมือกันแก้ไขปัญหาไฟป่าและฝุ่นควัน โดยเฉพาะในพื้นที่รอยต่อของแต่ละจังหวัดด้วย
นอกจากนี้ ได้ดำเนินการตรวจควันดำของรถยนต์ส่วนบุคคล เพื่อลดปัญหาฝุ่นควันที่เกิดจากควันดำของท่อไอเสียรถยนต์ เป็นการแก้ไขปัญหาอีกทางหนึ่งด้วย ในส่วนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและเทศบาลทั่วทั้งจังหวัด จะได้นำรถน้ำออกฉีดพ่น เพื่อสร้างความชุ่มชื้นและล้างทำความสะอาดในแต่ละชุมชน รวมทั้ง ศูนย์ ปภ.เขต 10 ลำปาง ได้สนับสนุนรถต่อต้านวินาศกรรมฉีดพ่นน้ำบริเวณข่วงประตูท่าแพในตัวเมืองเชียงใหม่ เพื่อลดฝุ่นละอองในอากาศและที่เกาะติดบริเวณใบไม้ ขณะที่การจัดพื้นที่ปลอดภัยจากฝุ่นควัน PM 2.5 หรือ safety zone ที่ทางจังหวัดจัดเตรียมไว้ นอกจากห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟของภาคเอกชนแล้ว ยังได้สั่งการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถานที่ราชการ ศูนย์เด็กเล็กเปิดให้บริการแต่ประชาชนด้วย แต่บางแห่งไม่มีผู้มาใช้บริการ พร้อมกันนี้ยังได้ มีเจลล้างมือ และหน้ากากอนามัยให้บริการเพื่อป้องกันโรคโควิด-19 อีกด้วย