เชียงใหม่ พิษโควิดกระทบปางช้างแม่สารับภาระเลี้ยงดูช้างเดือนละกว่า 5 ล้านบาท
วิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 จังหวัดเชียงใหม่ สั่งล็อคดาวน์จุดเสี่ยงหลายพื้นที่ ปางช้างแม่สา อ.แม่ริม หยุดให้บริการ ด้านผู้บริหารปางช้างแม่สา บอกว่า วิกฤตการณ์ครั้งนี้ ทำให้ช้างสำหรับให้บริการนั่งแหย่งเดินชมธรรมชาติ ช้างแสนรู้ที่ทำหน้าที่แสดงโชว์ รวม 60 เชือก ได้หยุดทำงานทั้งหมด ทำให้ปางช้างได้รับผลกระทบอย่างหนักรับภาระเลี้ยงดูช้าง 78 เชือกเดือนละกว่า 5 ล้านบาท อย่างไรก็ตามได้เตรียมการปรับเปลี่ยนรูปแบบเปิดปางช้างแบบอนุรักษ์ให้นักท่องเที่ยวดูแลช้างและเลี้ยงช้างตามธรรมชาติแทน หลังจากเปิดอีกครั้ง
หลังจากที่คำสั่งจังหวัดเชียงใหม่ ล็อคดาวน์จุดเสี่ยงหลายพื้นที่ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 หลังคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีคำสั่งปิดสถานที่เสี่ยงรวม 28 กลุ่มสถานที่ ซึ่งรวมถึงปางช้างทุกแห่งในจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคมเป็นต้นมา ทำให้ปางช้างแม่สา อ.แม่ริม หยุดให้บริการนักท่องเที่ยวชั่วคราว ซึ่งควาญช้างและพนักงานที่ปางช้างแม่สา อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ช่วยกันปลดแหย่งจากหลังช้างกว่า 40 เชือก ปลดระวางการใช้งาน นำไปเก็บไว้ที่ห้องเก็บ ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นวันแรกในรอบ 44 ปี ของปางช้างแม่สาที่หยุดให้บริการ นับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นในปี 2519 โดยวิกฤตการณ์ครั้งนี้ ทำให้ช้างสำหรับให้บริการนั่งแหย่งเดินชมธรรมชาติ 40 เชือก และ ช้างแสนรู้ที่ทำหน้าที่แสดงโชว์อีก 20 เชือก ได้หยุดทำงานทั้งหมด ขณะที่ในวันนี้ทางปางช้างแม่สา ได้เรียกพนักงานรวมทั้งควาญช้าง มาชี้แจงทำความเข้าใจ ว่าจะไม่มีการเลิกจ้าง ทุกคนยังคงทำงานดูแลช้างและหน้าที่อื่น ๆ ตามปกติ
ส่วนสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 ที่ทำให้นักท่องเที่ยวหายไปทั้งหมด ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิดทำให้นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศงดเดินทางออกนอกประเทศโดยสิ้นเชิง ทำให้ภาคธุรกิจ การท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ เงียบเหงาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ด้านนางอัญชลี กัลมามาพิจิตร ผู้บริหารปางช้างแม่สา เปิดเผยว่า จากวิกฤติดังกล่าว ปางช้างแม่สาได้รับผลกระทบอย่างหนัก นักท่องเที่ยวหายไปทั้งหมดมาเกือบสองเดือน ต้องแบกภาระต้นทุนทั้งคนและช้าง 78 เชือก เดือนละกว่า 5 ล้านบาท หลังหยุดให้บริการตามคำสั่งของจังหวัด สถานการณ์ที่กำลังเป็นอยู่ แม้จะส่งผลกระทบอย่างหนักหนาสาหัส แต่ทางปางช้างก็จะพยายามประคับประคองไปให้ถึงที่สุด โดยเฉพาะการดูแลพนักงานกว่า 200 กว่า ชีวิต และ ช้างทั้งหมด ซึ่งตลอด 44 ปี ทีผ่านมา ปางช้างจัดแสดงโชว์ความสามารถของช้างและให้บริการนั่งช้างชมธรรมชาติ กระทั่งช่วงหลังทางปางช้างได้เตรียมการปรับเปลี่ยนรูปแบบ เลิกให้บริการทั้งสองรูปแบบ มาเป็นการเลี้ยงช้างตามวิถีธรรมชาติ ซึ่งการหยุดให้บริการครั้งนี้ก็จะใช้วิกฤตเป็นโอกาสในการปรับรูปแบบ เตรียมเปิดปางช้างแบบอนุรักษ์ให้นักท่องเที่ยวดูแลช้างและเลี้ยงช้างตามธรรมชาติ และจะเปิดเป็นศูนย์อนุรักษ์ช้างให้นักท่องเที่ยวประชาชนเข้ามาสัมผัสชีวิตธรรมชาติของช้างแทน หลังจากเปิดอีกครั้ง อย่างไรก็ตามหลังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ทำให้ทุกคนได้รับผลกระทบกันหมด จึงได้ให้สัตวแพทย์ นำควาญช้างทุกคนมาให้ความรู้เกี่ยวกับโรคนี้และการป้องกันตัวเอง รวมไปถึงการดูแลช้างให้มีสุขภาพที่ดี เน้นให้อาหารที่มีคุณประโยชน์กับช้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งช้างชรากว่า 20 เชือก ที่ต้องการ การเอาใจใส่กว่าช้างทั่วไป
อย่างไรก็ตามหากท่านใดมีความประสงค์จะช่วยเหลือช้างเหล่านี้สามารถนำอาหารช้างมามอบให้ช้างที่ปางช้างแม่สา หรือสามารถช่วยเหลือช้างได้ที่มูลนิธิอนุรักษ์ช้างไทย ที่หมายเลขบัญชี 531-0-66551-7 BKKB THBK ELEPHANT CONSERVATION FOUDATION