ตำรวจ ผู้การฯ เชียงใหม่ เข้มมาก มาตรการเคอร์ฟิว เชียงใหม่จับกุม 19 ราย ด้าน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ย้ำยังคงคุมเข้ม ขอประชาชนให้ความร่วมมือ
วันที่ 4 เม.ย.63 รายงานข่าวแจ้งว่า จากกรณีที่ทางจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการบังคับใช้กฎหมายตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ที่ทางรัฐบาลได้มีการประกาศเริ่มใช้มาตรการดังกล่าวตั้งแต่เมื่อเวลา 22.00 น. ของวานนี้ (3 เม.ย.) จนถึงเวลา 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น โดยในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ได้มีการจัดชุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง รวมทั้งเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ในการเข้มงวดมาตรการที่มีการประกาศใช้เป็นวันแรกไปแล้ว และได้มีการปล่อยแถวปฏิบัติการณ์ของเจ้าหน้าที่ โดยในส่วนของพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่ ได้มีการกระจายกำลังกันครอบคลุมพื้นที่ โดย 38 โรงพัก 38 จุด และมีด่านตรวจในพื้นที่รวมทั้งสิ้น 47 จุดด้วยกัน แต่จากการดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวยังพบว่ามีบุคคลที่ไม่ปฏิบัติตามและฝ่าฝืนคำสั่ง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้มีการจับกุมตัวได้เมื่อวานนี้ และเตรียมดำเนินคดีอย่างไม่มีข้อยกเว้น
ทั้งนี้เกี่ยวกับการดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวนี้ ทางด้าน พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ช่วงค่ำคืนวานนี้ (3 เม.ย.) ทางจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ในการคุมเข้มมาตรการการบังคับใช้กฎหมายตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 หรือการเคอร์ฟิวห้ามประชาชนที่ไม่มีความจำเป็น และไม่ได้เป็นบุคคลยกเว้นตามที่ได้มีการกำหนดไว้ ซึ่งจากการดำเนินการตั้งแต่เวลา 22.00 น. จนถึง 04.00 น. ในวันแรกนั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิดที่ฝ่าฝืนข้อบังคับได้จำนวนทั้งสิ้น 19 รายด้วยกัน โดยแบ่งเป็นในพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่จำนวนประมาณ 10 กว่าราย และที่เหลือเป็นพื้นที่รอบนอก ประกอบด้วย อ.สารภี , อ.สันป่าตอง และ อ.ฝาง โดยตามที่ได้เน้นย้ำไปแล้วว่าจะมีการดำเนินการอย่างเข้มงวดและดำเนินคดีตามกฎหมายข้อบังคับ ซึ่งทางกลุ่มผู้กระทำความผิดทั้งหมดนี้ก็จะมีการส่งฟ้องต่อไป
อย่างไรก็ตามในส่วนของภาพรวมนั้นพบว่าประชาชนชาวเชียงใหม่ได้ให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี แต่เนื่องจากเป็นการดำเนินการในวันแรกก็อาจจะพบผู้กระทำผิดอยู่บ้างและคาดว่าหลังจากนี้ก็น่าจะลดลง และอยากขอความร่วมมือกับพี่น้องประชาชนให้ปฏิบัติตามมาตรการที่บังคับใช้ด้วย ซึ่งในส่วนของพื้นที่รอบนอกหรือต่างอำเภอนั้น ภายหลังจากที่ตนได้ลงพื้นที่สำรวจร่วมกับทางท่านผู้ว่าราชการในวันนี้ เพื่อประชาสัมพันธ์และขอความร่วมมือ ก็พบว่าพี่ต้องประชาชนมีความตื่นตัวและให้ความสำคัญกับมาตรการเป็นอย่างดี โดยทางผู้นำชุมชนก็ได้มีการเน้นย้ำกับลูกบ้านหรือคนในพื้นที่ถึงการปฏิบัติตัวตามมาตรการ รวมไปถึงการเฝ้าระวังและป้องกันการเกิดเชื้อระบาดของไวรัส
พล.ต.ต.พิเชษฐ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ทั้งนี้ในส่วนของการดำเนินการในวันนี้ ซึ่งเป็นวันที่สอง ขอย้ำเตือนกับพี่น้องประชาชนว่า ทางเจ้าหน้าที่ยังคงมีความเข้มงวดกวดขันอย่างต่อเนื่อง และหากผู้กระทำความผิดที่ไม่ใช่บุคคลยกเว้น ก็จะต้องถูกจับกุมและส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย จึงขอให้พี่น้องประชาชนได้ให้ความร่วมมือและปฏบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด เพื่อให้มาตรการและการดำเนินการของเจ้าหน้าที่เป็นไปอย่างได้ผล และมีประสิทธิภาพ รวมทั้งเป็นการลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอีกด้วย