สำนักงานประกันสังคม ออกประกาศแพทย์ฯให้การตรวจรักษา ผู้ประกันตนกลุ่มเสี่ยงและกลุ่ มป่วยโควิด-19 เทียบเท่าสิทธิ 3 กองทุน
นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการสำนักงานประกันสั งคม เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า จากสถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อไวรั สโควิด-19 ซึ่งเป็นโรคอุบัติใหม่ส่งผลให้ สถานพยาบาลมีความจำเป็นต้องใช้ การตรวจทางห้องปฏิบัติการแบบพิ เศษตลอดจนเครื่องมือแพทย์ต่ างๆในการให้บริการแก่ผู้ประกั นตนที่มีความเสี่ยงเข้าเกณฑ์ สอบสวนโรคติดเชื้อโควิด-19 หรือผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 คณะกรรมการประกันสังคมจึงมีมติ เห็ นชอบประกาศคณะกรรมการการแพทย์ ตามพระราชบัญญัติประกันสังคม เรื่องหลักเกณฑ์และอัตราค่าบริ การทางการแพทย์กรณีโรคติดเชื้ อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 โดย นายแพทย์ชาตรี บานชื่น ประธานคณะกรรมการการแพทย์ สำนักงานประกันสังคม ซึ่งประกาศฯ ดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วั นที่ 2 มีนาคม 2563 ในการนี้ร่างประกาศฯดังกล่าวได้ เผยแพร่ในราชกิจจานุเบกษาแล้ วเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2563 โดยสำนักงานฯ จะจ่ายค่าบริการทางการแพทย์แก่ ผู้ประกันตนหรือสถานพยาบาลในหลั กเกณฑ์ ดังนี้
1. กรณีเข้ารับบริการทางการแพทย์ ในสถานพยาบาลของรัฐ
ประเภทผู้ป่วยนอก จ่ายค่าบริการทางการแพทย์ ดังนี้ ค่าตรวจวินิจฉัยโรคโควิด-19 ทางห้องปฏิบัติการตามหลักเกณฑ์ และวิธีการที่กระทรวงสาธารณสุ ขกำหนดและค่าอุปกรณ์ป้องกันส่ วนบุคคล (PPE) สำหรับบุคลากรห้องปฏิบัติ การในอัตราไม่เกินครั้งละ 3,000 บาท และจ่ายค่าอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุ คคล (PPE) สำหรับบุคลากรเพื่อเก็บตัวอย่ างส่งตรวจ ครั้งละไม่เกิน 540 บาท
ประเภทผู้ป่วยใน จ่ายค่าบริการทางการแพทย์ ดังนี้
– ค่าห้องพักสำหรับควบคุมดูแลรั กษาตามมาตรฐานและค่าอาหารไม่เกิ นวันละ 2,500 บาท
– ค่าบริการทางการแพทย์ คำนวณตามกลุ่มวินิจฉัยโรคร่วม (DRG) ในอัตรา 12,000 บาท ต่อหนึ่งน้ำหนักสัมพัทธปรับตามวันนอน (AdjRW)
– ค่ายาต้านไวรัสไม่เกิน 7,200 บาท ต่อราย
– ค่าตรวจทางห้องปฏิบัติการ ไม่เกินครั้งละ 2,500 บาท
– ค่าอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล ( PPE) ตามอาการของผู้ป่วย กรณีอาการเล็กน้อยถึงปานกลาง จ่ายไม่เกิน 15 ชุดต่อวัน อัตรา 740 บาทต่อชุด กรณีอาการรุนแรงจ่ายไม่เกิน 30 ชุดต่อวัน อัตรา 740 บาทต่อชุด
2. กรณีเข้ารับบริการทางการแพทย์ ในสถานพยาบาลเอกชน สำนักงานฯ จ่ายค่าบริ การทางการแพทย์กรณีการตรวจวินิ จฉัยโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สำหรับผู้ประกันตนที่เข้าเกณฑ์ สอบสวนโรคติดเชื้อโควิด-19 ตามเกณฑ์กระทรวงสาธารณสุข และไม่ได้เป็นผู้รับสิทธิจากหน่ วยงานภาครัฐอื่น รวมถึงค่าบริการทางการแพทย์ สำหรับผู้ประกันตนที่ป่วยสำนั กงานฯ จ่ายให้สถานพยาบาลเอกชนตามหลั กเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด
3. ค่าพาหนะ ในกรณีจำเป็นต้องส่งต่อภายในจั งหวัดเดียวกันจ่ายตามจริง ไม่เกิน 500 บาท กรณีต่างท้องที่จังหวัดอื่นจ่ ายเบื้องต้น 500 บาท และจ่ายเพิ่มกิโลเมตรละ 6 บาท ทั้งยังจ่ายค่าอุปกรณ์ป้องกันส่ วนบุคคล (PPE) และค่ าทำความสะอาดฆ่าเชื้ อยานพาหนะไม่เกิน 3,700 บาทต่อครั้ง
4. กรณีที่สำนักงานฯ เห็นว่าผู้ประกันตนสมควรได้รั บค่าบริการทางการแพทย์นอกเหนื อจากที่กำหนด สำนักงานฯ จะต้องจ่ายภายใต้ คำแนะนำของคณะกรรมการการแพทย์
อย่างไรก็ตามเมื่อผู้ประกันตนมี อาการป่วย มีไข้ เจ็บคอ ไอหรือมีอาการอื่นๆร่วม ในเบื้องต้นขอแนะนำให้เข้ารั บการรักษาโรงพยาบาลตามสิทธิที่ เลือกไว้ เนื่องจากหากไม่เข้าเกณฑ์ สอบสวนโรคโควิด-19 หรือไม่เป็นผู้ติดเชื้อไวรั สโควิด-19 จะสามารถรักษาอาการ องโรคที่เป็นได้เลย แต่หากผู้ประกันตนไม่สามารถเข้ ารับการรักษาในโรงพยาบาลตามสิ ทธิที่เลือกได้ ผู้ประกันตนสามารถเข้ารั กษาในโรงพยาบาลที่สะดวกได้ทั้ งรัฐและเอกชน และหากพบว่าเป็นโรคติดเชื้อไวรั สโควิด-19 ก็สามารถรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลนั้นได้เลย โดยไม่ต้องแจ้งโรงพยาบาลตามสิ ทธิ และไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยสถานพยาบาลที่รักษา จะเบิกค่าใช้จ่ายจากสำนั กงานประกันสังคมได้ตามหลักเกณฑ์ ข้างต้น
นายทศพลฯ เปิดเผยว่าการกำหนดหลักเกณฑ์ การตรวจวินิจฉัยและการดูแลรั กษาผู้ป่วยด้วยโรคโควิด-19 นั้น หน่วยงานที่รับผิดชอบหลักทั้ง 3 หน่วยงานคือ กรมบัญชีกลาง สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่ งชาติ และสำนักงานประกันสังคม ได้ตกลงร่วมกันในการให้ การตรวจรักษาแก่ผู้ที่อยู่ในกลุ่ มเสี่ยงหรือผู้ที่ป่วยด้ วยโรคโควิด-19 ให้เป็นไปตามมาตรฐานเดียวกันทั้ ง 3 หน่วยงาน ทั้งนี้สำนักงานประกันสังคมได้ ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิ ดรวมทั้งรับทราบปัญหาที่เกิดขึ้ นจากผลกระทบภาวะวิกฤต โควิด-19 ทุกด้านเพื่ อหาแนวทางกำหนดมาตรการแก้ไขให้ สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงที่ เกิดขึ้นต่อไป ตนขอให้ผู้ประกันตนมั่นใจว่ าสำนักงานประกันสังคมจะดูแลผู้ ประกันตนทุกท่านและพร้อมพั ฒนางานของประกันสังคมให้มีประสิ ทธิภาพอย่างต่อเนื่องบนพื้ นฐานการพัฒนาแบบยั่งยืนให้เกิ ดความมั่นคงต่อชีวิตและสุ ขภาพของผู้ประกันตนต่อไป