ไฟป่าเผาวอด “ดอยม่อนจอง” แหล่งท่องเที่ยวสุดอันซีน จนท.หวั่นกระทบแหล่งอาศัยของช้าง ขณะที่ค่ามลพิษเชียงใหม่สูงอันดับ 1 ของโลก 3 วันติด
วันที่ 7 เมษายน 2563 รายงานข่าวแจ้งว่า จากกรณีสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันล่าสุดที่บริเวณป่าบ้านห้วยไม้หก ม.6 ต.ม่อนจอง อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ โดยทางด้านนายสมบัติ อ่อนสะอาด หัวหน้าหน้าพิทักษ์ป่ามูเซอ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย เปิดเผยว่า เมื่อเช้านี้ตนได้รับรายงานว่ามีการตรวจเจอจุดความร้อนที่บริเวณป่าบ้านห้วยไม้หก ดอยม่อนจอง จำนวน 2 จุด ซึ่งในเบื้องต้นได้มีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยดับไฟป่าเคลื่อนที่มูเซอ เข้าทำการตรวจสอบ
โดยพบว่าบริเวณดังกล่าวเป็นป่าดงช้างซึ่งมีช้างอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ประกอบกับสภาพภูมิประเทศเป็นภูเขาสูงชัน จึงทำให้การดับไฟป่าเป็นไปด้วยความยากลำบาก โดยเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมงจึงจะสามารถควบคุมเอาไว้ได้ โดยจากการตรวจสอบพบว่าได้มีพื้นที่ได้รับความเสียหายกว่า 16 ไร่ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าน่าจะเกิดจากการที่ชาวบ้านเผาหาของป่า ในเบื้องต้นได้มีการจัดชุดลาดตระเวนออกตรวจตรา เพื่อไม่ให้เกิดการลักลอบเผาซ้ำอีกครั้งหนึ่ง นอกจากนี้ที่บริเวณเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพปุยเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ยังคงเกิดไฟป่าเป็นบางจุด ทางเจ้าหน้าที่ต้องจัดกำลังขึ้นไปดับไฟป่า โดยได้มีเจ้าหน้าที่ 1 นาย ถูกต้นไม้ล้มทับ จนได้รับบาดเจ็บ ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยอุทยานจังได้จัดเจ้าหน้าที่เดินเท้าเข้าไปให้การช่วยเหลือนานกว่า 1 ชั่วโมง จึงจะสามารถช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บส่งรักษาต่อยังโรงพยาบาลได้ ซึ่งในเบื้องต้ยผู้ได้รับบาดเจ็บปลอดภัยดีแต่ยังคงมีอาการปวดตามร่างกายอยู่
ขณะที่ในวันเดียวกันนี้ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมประชุมเพื่อติดตามสถานการณ์ไฟป่าฝุ่นควัน ที่ศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีการประชุมผ่านระบบ VDO Conference ร่วมกับ 5 อำเภอ คือ แม่แจ่ม เชียงดาว อมก๋อย แม่แตง และฮอด ซึ่งมีจุดความร้อนมากที่สุดในเช้าวันนี้ เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาให้ได้ด้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้กำชับให้ทุกอำเภอ เร่งรัดเรื่องการแจ้งความดำเนินคดี โดยเฉพาะจุดเกิดไฟป่าที่เกิดขึ้นในบริเวณที่ผ่อนผันให้ทำกิน หรือพื้นที่ป่าบริเวณใกล้เคียงที่มีการแบ่งเขตความรับผิดชอบในการครอบครองไว้แล้ว ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเชิญตัวเจ้าของพื้นที่ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยมาสอบสวนก่อน และขอให้ดำเนินการทุกคดีด้วยความรวดเร็ว สำหรับจุดความร้อนสะสมของจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 6 เมษายน 2563 มีรวมทั้งสิ้น 18,913 จุด พบในเขตป่าสงวนแห่งชาติ 7,568 จุด ป่าอนุรักษ์ 10,408 จุด เขต สปก. 422 จุด ชุมชนและอื่นๆ 395 จุด ริมทางหลวง 17 จุด และพื้นที่เกษตร 103 จุด โดยพบมากที่สุดในพื้นที่เชียงดาว อมก๋อย แม่แจ่ม ฮอด พร้าว แม่แตง สะเมิงตามลำดับ
ขณะที่สถานการณ์ฝุ่นละอองในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาพบกลุ่มฝุ่นละอองปกคลุมหนาแน่นทั่วทั้งจังหวัดและภาคเหนืออย่างต่อเนื่อง สาเหตุเกิดจากเกิดจุดความร้อนมากทั้งในจังหวัดเชียงใหม่และพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งเป็นทิศตะวันตกเฉียงใต้ ทิศทางที่ลมพัดพาฝุ่นละอองเข้าตัวเมืองเชียงใหม่ ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือคาดการณ์ว่า การระบายตัวของอากาศและฝุ่นละอองจะเป็นลักษณะนี้ต่อไปอีก 2-3 วัน ทำให้มีฝุ่นควันหนาทึบปกคลุมต่อเนื่อง
ทั้งนี้จากการตรวจสอบการตรวจวัดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก พีเอ็ม 2.5 รายชั่วโมงของ กรมควบคุมมลพิษพบว่า ในเช้าวันนี้ที่บริเวณสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ ต.ช้างเผือก อ.เมือง, เชียงใหม่ พบปริมาณฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน มีค่า 110 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อยู่ในเกณฑ์มีผลกระทบต่อสุขภาพ นอกจากนี้ยังพบปริมาณฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน มีค่า 151 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อยู่ในเกณฑ์มีผลกระทบต่อสุขภาพ ประชาชนทั่วไป และกลุ่มเสี่ยงควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งทุกประเภท หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีมลพิษทางอากาศสูง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น หากมีอาการทางสุขภาพรุนแรงควรปรึกษาแพทย์ นอกจากนี้ทางด้านเว็บไซต์ Air visual พบว่าค่ามลพิษของจังหวัดเชียงใหม่ขึ้นสู่อันดับ 1 ของโลกอย่างต่อเนื่อง โดยในเช้านี้วัดดัชนีคุณภาพอากาศวัดได้ 196 USAQI ต่ำกว่าเมื่อวานที่ผ่านมา ที่สามารถวัดได้ 228 USAQI
