เชียงใหม่ออกประกาศ ข้อปฏิบัติการรักษาทางทันตกรรม ในช่วงการแพร่ระบาด ‘โควิด-19’
เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2563 กรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ได้ออกประกาศคําสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 12/2563 เรื่อง ข้อปฏิบัติการรักษาทางทันตกรรมในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ระบุว่า
ตามที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีคําสั่งเกี่ยวกับมาตรการเร่งด่วนในการ ป้องกันวิกฤตการณ์จากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ มาอย่าง ต่อเนื่อง แต่ปรากฏว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 ยังคงมีแนวโน้ม แพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง
ดังนั้น เพื่อเป็นการยกระดับมาตรการเฝ้าระวัง ควบคุม และป้องกันการแพร่ระบาด จากเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยคํานึงถึงโอกาสเสี่ยงในการ ติดต่อโรคและความจําเป็นของประชาชน ฉะนั้น อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติ โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 และข้อ 2 (3) และข้อ 7 (1) ของข้อกําหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราช กําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 1) ลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2563 ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ โดยความเห็นชอบ ของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ตามมติที่ประชุม ครั้งที่ 18/2563 เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2563 จึงออกคําสั่งไว้ ดังนี้
1. ให้การรักษาทางทันตกรรมเฉพาะกรณีฉุกเฉิน (Emergency case) เท่านั้นและหลีกเลี่ยง การรักษากรณีเร่งด่วน (Urgent case) ทั้งนี้ หากมีความจําเป็นต้องให้การรักษาไม่ว่ากรณีใดก็ตาม จะต้องคํานึงถึงศักยภาพของหน่วยงานรวมถึงความปลอดภัยของบุคลากรต่างๆ ในแง่ของการป้องกันและควบคุมการ แพร่กระจายของโรคอย่างสูงสุด
2. ให้เลื่อนการรักษางานทันตกรรมที่ไม่เร่งด่วน (Elective case) ออกไปก่อน
3. ในกรณีที่มีความจําเป็นต้องให้การรักษาให้พิจารณาตามแนวทางปฏิบัติการรักษาทาง ทันตกรรมในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรค COVID-19 ตามรายละเอียดแนบท้าย
4. หากจําเป็นต้องใช้ห้องผ่าตัด ให้ปฏิบัติตามแนวทางการทําหัตถการการใช้ห้องผ่าตัด ตามประกาศกรมการแพทย์ ลงวันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2563
อนึ่ง การดําเนินการตามคําสั่งนี้เป็นไปตามพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 จึงไม่อยู่ในบังคับของกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง และกฎหมายว่าด้วย การจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาทางปกครอง ตามมาตรา 16 ของพระราชกําหนดดังกล่าว
ผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ ตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 หรือต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน สองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ ตามมาตรา 18 แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการ ในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน 2563 จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2563 สั่ง ณ วันที่ 7 เมษายน พ.ศ.2563 (นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์) ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ผู้กํากับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดเชียงใหม่